WORLDMED CENTER Phi Phi

ปกป้องลูกจาก โรต้าไวรัส

       สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านค่ะ กลับมาพบกับสาระประโยชน์ด้านสุขภาพสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ MOTHERIFE TIPS ใน Ep.6 นี้ แอดมินจะมาชวนคุณพ่อคุณแม่ร่วมสร้างเกราะป้องกันด้านสุขลักษณะให้กับลูกน้อย
ในหัวข้อ ” ปกป้องลูกจาก โรต้าไวรัส ” กันค่ะ

Play Video

มารู้จักเจ้าไวรัสโรต้า?  
       โรต้าไวรัส เป็นเชื้อไวรัสชนิดหนึ่งที่ทำให้เกิดการอักเสบในกระเพาะอาหารและลำไส้ มีขนาดเล็ก รูปร่างเหมือนกงล้อและมันยังเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดโรคท้องเสียในเด็กเล็ก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเด็กที่ มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ในกลุ่มเด็กเล็กมากๆ ช่วงอายุ 1- 2 ขวบปี จะมีอาการรุนแรง ทำให้เกิดภาวะขาดน้ำรุนแรง และต้องเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล ในบางรายอาจทำให้เป็นอันตรายถึงชีวิตได้ ส่วนในผู้ใหญ่ก็สามารถติด เชื้อ Rotavirus นี้ได้เช่นเดียวกัน แต่ส่วนใหญ่จะมีอาการรุนแรงน้อยกว่าในเด็กเล็ก มีเพียงบางรายเท่านั้นที่มี อาการรุนแรงมาก

5 เทคนิค ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์
5 เทคนิค ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์
ปกป้องลูกจาก โรต้าไวรัส

อาการจากไวรัสโรต้า

อาการจากไวรัสโรต้า
1.ท้องร่วงอย่างรุนแรง และถ่ายเป็นน้ำ อาจถ่ายบ่อยได้ 7 -8 ครั้ง / วัน หรืออาจจะถึง 10-20 ครั้งต่อวัน
2.มีไข้ อาจเป็นไข้สูงถึง 39 องศาเซลเซียส 
3.อาเจียน อาจบ่อยถึง 7 – 8 ครั้ง / วัน 
4.เด็กบางคน อาจมีอาการอาเจียน หรือท้องเสียได้มากกว่า 20 ครั้ง ใน 24 ชั่วโมง 
5.ไม่สามารถรับประทานอาหารหรือน้ำได้เลย จนทำให้เกิดภาวะขาดน้ำ และเกลือแร่ในร่างกาย บางรายเกิดภาวะช็อค  
เป็นสาเหตุให้อวัยวะต่าง ๆ ทำงานล้มเหลว เช่น ไตวายเฉียบพลัน หัวใจเต้นผิดปกติ และอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้ 

          ในรายที่มีภาวะขาดสารน้ำค่อนข้างมาก อาเจียน ปวดท้อง และถ่ายเหลวตลอด ก็อาจ เกิดอันตรายจากการขาดน้ำทำให้เกิดภาวะช็อค ความดันโลหิตต่ำ  และเสียชีวิตได้ จึง ควรพิจารณาให้เข้ารับการรักษาตัวใน ร.พ. ให้น้ำเกลือทางหลอดเลือด และติดตามดูอาการอย่างใกล้ชิด

วิธีป้องกันไวรัสโรต้าในเด็ก

ป้องกันโรต้าไวรัส
1.รักษาระยะห่างทางสังคม: ให้เด็กเลี่ยงการมาอยู่ใกล้ผู้ที่เป็นไข้หวัดหรือมีอาการเจ็บคอ และหลีกเลี่ยงการไปที่สถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง เช่น หน่วยงานที่มีการรวมกลุ่มคนหรือการเดินทางที่คนพลุกพล่าน
2.ส่งเสริมการล้างมือ : สอนให้เด็กล้างมือโดยใช้สบู่และน้ำที่สะอาดเป็นระยะเวลาอย่างน้อย 20 วินาที หลังจากการสัมผัสสิ่งของหรือพื้นผิวที่อาจมีเชื้อโรต้า หรือหลังจากการไอหรือจาม
3.เสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน: ให้เด็กได้รับอาหารที่มีประโยชน์ เพียงพอ การนอนหลับที่เพียงพอ และการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกันของเด็ก
4.สวมหน้ากากอนามัย: ในบางกรณีที่เด็กจำเป็นต้องอยู่ในสถานที่ที่มีความเสี่ยงสูง  หรืออยู่ใกล้กับคนที่เป็นไข้หวัด ควรสวมหน้ากากอนามัยเพื่อลดโอกาสติดเชื้อ
5.ประคับประคองเด็กจากการสัมผัส: ให้เด็กหลีกเลี่ยงการสัมผัสตามหน้าผาก ปาก หรือตา ซึ่งเป็นทางเข้าสำคัญของเชื้อโรต้า และให้เด็กเรียนรู้การปกป้องตนเอง เช่น การรับสิ่งของของคนอื่นที่อาจมีเชื้อโรต้า
6.ตรวจสุขภาพและฉีดวัคซีน : ให้เด็กได้รับการตรวจสุขภาพประจำตามที่แพทย์แนะนำ รวมทั้งรับวัคซีนตามตารางที่กำหนด เช่น วัคซีนไข้หวัดใหญ่ และวัคซีนอื่น ๆ ที่เหมาะสม ปัจจุบันมีวัคซีนป้องกันโรคโรต้าไวรัสที่ใช้เฉพาะในเด็กเล็กแล้ว ซึ่งมี 2 ประเภท คือแบบให้ 2 ครั้ง และแบบให้ 3 ครั้ง
แบบแรก : ให้ 2 ครั้ง แนะนำให้หยอดวัคซีนนี้ ตอนอายุ 2 เดือนและ 4 เดือน
แบบที่สอง : ให้ 3 ครั้ง แนะนำให้หยอดวัคซีนนี้ ตอนอายุ 2 , 4 และ 6 เดือน ตามลำดับ
7.ให้มีการรับรู้และเฝ้าระวังอาการ: สอนให้เด็กรู้จักอาการที่เกิดขึ้นเมื่อเป็นไข้หวัดหรือมีอาการเจ็บคอ เช่น ไข้สูง น้ำมูก
เจ็บคอ และอาการอื่น ๆ และให้พ่อแม่หรือผู้ปกครองเฝ้าระวังอาการของเด็ก และพบแพทย์ทันทีหากมีอาการเป็นพิษหรือภาวะที่ต้องรักษา 

       แม้จะมีวัคซีน แต่ในปัจจุบันยังไม่มียาต้านไวรัสเฉพาะเจาะจงในการขจัดเชื้อไวรัสตัวนี้ การรักษาจึงเป็นการ ดูแลรักษาตามอาการ การให้สารน้ำและเกลือแร่ทดแทน หากอาการไม่รุนแรง สามารถรับประทานเองได้ จะใช้วิธีดื่มน้ำเกลือแร่ชดเชย (โอ อาร์ เอส) เลือกรับประทานอาหารอ่อน และยาบรรเทาอาการ ดังนั้นการยึดถือข้อปฏิบัติด้านสุขลักษณะจึงเป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุดค่ะ และคุณพ่อคุณแม่ คือกุญแจสำคัญให้ลูกได้เรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับการป้องกันโรค และสร้างความตระหนักในการดูแลสุขอนามัยของตนเอง เพื่อสุขภาวะที่ดีอย่างยั่งยืน

ติดตามสาระใน EP.ถัดไปได้ที่ช่องทางนี้ หรือ www.worldmedsolution.com

บทความ : ปกป้องลูกจาก โรต้าไวรัส

หน้าหลัก
กลับสู่หน้าหลักบทความ
Facebook Comments