WORLDMED CENTER Phi Phi

สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ฮีโร่หรือวายร้ายสำหรับสุขภาพ

         สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ สาระวันนี้เป็นเรื่องของความหวานที่เกี่ยวกับความรักครับ แต่รักในที่นี้คือรักสุขภาพนะครับ อย่างที่ทุกท่านทราบว่าหากเราทานหวานโดยมีน้ำตาลเป็นวัตถุดิบ ท้ายที่สุดจะแปรสภาพและเก็บสะสมในร่างกาย หากทานนานวันเข้าก็อาจก่อให้เกิดโรคเช่น เบาหวาน โรคอ้วนได้ ขณะที่ผู้ผลิตหันมาใช้สารให้ความหวานแทนน้ำตาลในการผลิตสินค้าบริโภค ไม่ว่าด้วยเหตุผลด้านพานิชย์หรือเพื่อสุขภาพ ทั้งยังได้รับการเชื่อมั่นว่ามีความปลอดภัยและเสี่ยงโรคอ้วนน้อยกว่าการบริโภคน้ำตาลทราย แต่ไม่นานมานี้ผู้เชี่ยวชาญหลายท่านได้ให้ข้อมูล สารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นแท้จริงแล้วก็มีโทษต่อสุขภาพไม่ต่างจากน้ำตาลเลยทีเดียว สรุปแล้ว สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ฮีโร่หรือวายร้าย สำหรับสุขภาพ กันแน่ ติดตามเรื่องนี้ไปพร้อมกันครับ

สารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นแท้จริงแล้วก็มีโทษต่อสุขภาพไม่ต่างจากน้ำตาลเลยทีเดียว สรุปแล้ว สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ฮีโร่หรือวายร้าย สำหรับสุขภาพ กันแน่
จำแนกสารให้ความหวานที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลาย
สารให้ความหวานแทนน้ำตาลนั้นแท้จริงแล้วก็มีโทษต่อสุขภาพไม่ต่างจากน้ำตาลเลยทีเดียว สรุปแล้ว สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ฮีโร่หรือวายร้าย สำหรับสุขภาพ กันแน่

1.แอสปาแตม : หวานกว่าน้ำตาลถึง 200 เท่า นิยมอย่างมากในเครื่องดื่มน้ำอัดลมและคนไข้ที่เป็นโรคเบาหวานมีงานวิจัยเชื่อมโยงแอสปาร์เทมเข้ากับอาการปวดไมเกรนในผู้ใช้บางราย และความเป็นสารเคมีเมื่อบริโภคไปนานๆอาจให้ผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาวได้ 

2.ซูคราโลส : หวานมากกว่าน้ำตาลประมาณ 600 เท่า ซูคราโลสนิยมนำมาใช้ให้ความหวานกับขนม ชา กาแฟ  ที่โฆษณาว่าดื่มเพื่อลดความอ้วนเพื่อสุขภาพ สิ่งที่ต้องพิจารณาคือกระบวนการผลิตซูคราโลสนั้น ทำโดยการเพิ่มคลอรีนเข้าไปในโมเลกุลน้ำตาล  ซึ่งเป็นเหตุที่ทำให้กระเพาะของเราไวต่อสิ่งกระตุ้นมากขึ้น และอาจทำให้เกิดอาการปวดศีรษะได้ด้วยในบางราย 

3.หญ้าหวาน หรือ Stevia  : หวานมากกว่าน้ำตาล 250 – 300 เท่า  มีพลังงานน้อยมาก โดยหญ้าหวานน่าจะเป็นสารทดแทนความหวานที่ปลอดภัยกว่าชนิดอื่น และยังไม่มีรายงานข้อแทรกซ้อนจากการใช้ และได้ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา(อย.) โดยได้รับอนุญาตให้นำสารสกัด stevioside มาขึ้นทะเบียนเป็นสารหวานแทนน้ำตาลได้

         โดยสรุป กลุ่มคนที่จำเป็นต้องใช้สารให้ความหวานโดยตรงก็คือกลุ่มผู้ป่วยโรคเบาหวานและความดันโลหิตที่ต้องควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดให้สมดุล แต่สำหรับบุคคลทั่วไปแล้ว สารให้ความหวานแทนน้ำตาล เป็นทางเลือกด้านสุขภาพมากกว่าเป็นทางออกของสุขภาพเพราะการมีสุขภาพที่ดีนั้นต้องยั่งยืนและมีผลกระทบน้อยที่สุด บางทีการเลือกทานผลไม้บางชนิด ควบคู่กับการออกกำลังกายและพักผ่อนให้เพียงพอจะทำให้ร่างกายคุ้นชินกับการมีสุขภาวะที่ดีแถมยั่งยืนอีกด้วยครับ

ติดตามสาระใน EP.ถัดไปได้ที่ช่องทางนี้ หรือ www.worldmedsolution.com

บทความ : สารให้ความหวานแทนน้ำตาล ฮีโร่หรือวายร้ายสำหรับสุขภาพ

หน้าหลัก
กลับสู่หน้าหลักบทความ
Facebook Comments