ติดหวาน กินอย่างไรห่างไกลโรค ?
ติดหวาน กินอย่างไรห่างไกลโรค ? พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ีมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งไม่ใช่การบริโภคในปริมาณทั่วๆไป แต่บริโภคในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ข้อมูลจากปี พ.ศ. 2553 พบว่าอัตราการบริโภคน้ำตาลของคนไทยเพิ่มขึ้นถึง 2.7 เท่า เฉลี่ยประมาณ 20-26 ช้อนชาต่อคนต่อวัน ซึ่งเกินจากปริมาณที่แนะนำ(ไม่เกิน 4-8 ช้อนชา) เพราะปริมาณน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นจะถูกเปลี่ยนให้เป็นไขมันสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังส่งผลต่ิสุขภาพผิวพรรณ ทำให้ผิวของเราแห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรอีกด้วย
เช็คสัญญาณ ติดหวาน หรือเปล่านะ ?
- ต้องทานอาหารหวานต่อจากอาหารคาวเป็นประจำ
- เติมน้ำตาลในอาหารทุกเมนู เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไข่เจียวเติมน้ำตาล ทำพริกน้ำปลาเติมน้ำตาล
- มีอาการเพลีย หงุดหงิด หรืออารมณ์ไม่ดี เมื่อขาดอาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาล หิวบ่อย
- ชอบทานผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง หรือผลไม้แช่อิ่ม
วิธีลดหวานอย่างปลอดภัยห่างไกลโรค
- 1.เริ่มลดแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะการเลิกกินของหวานทั้งหมดแบบทันที ร่างกายจะมีอาการขาดน้ำตาล เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ อ่อนแรง คลื่นไส้ เป็นต้น
2.ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ หากร่างกายขาดน้ำจะทำให้รู้สึกหิวและเพิ่มความอยากของหวานมากขึ้น การดื่มน้ำเปล่าประมาณ 1 แก้ว เมื่อรู้สึกอยากของหวานจะช่วยให้เราลดความอยากลงได้
3.กินผักใบเขียว ผักใบเขียวให้หลากหลายชนิดในหนึ่งวัน เช่น คะน้า กวางตุ้ง บร็อคโคลี่ ฯลฯ เนื่องจากเป็นอาหารที่แคลอรี่ต่ำ มีใยอาหารสูง และทำให้การดูดซึมน้ำตาลช้าลง อีกทั้งใยอาหารยังช่วยดูดซับน้ำตาลไม่ให้เข้าสู่กระแสเลือดเร็วเกินไป
4.ออกกำลังกาย และกิจกรรมผ่อนคลายคือทางออก หากติดหวานมากๆ ไม่รู้จะแก้ยังไงเวลาโหยน้ำตาล ให้ลองหากิจกรรมทำดู เช่น ออกกำลังกาย ปลูกต้นไม้หรือทำงานบ้าน เพราะเมื่อสมองสั่งการว่าอยากกินอะไรสักอย่าง ความรู้สึกนั้นจะอยู่นานประมาณ 20-30 นาที หากเราเบี่ยงเบนความสนใจไปทำกิจกรรมอย่างอื่นก็อาจจะช่วยให้ความอยากของหวานลดลงได้ นอกจากนี้การออกกำลังกายยังมีส่วนช่วยในการเพิ่มระดับฮอร์โมนเอนโดรฟินที่ทำให้อารมณ์ดี ซึ่งเป็นฮอร์โมนประเภทเดียวกันกับตอนที่ร่างกายหลั่งออกมาเมื่อได้กินของหวาน เพราะหนึ่งในเหตุผลของคนที่ชอบความหวานคือรู้สึกอารมณ์ดีเมื่อได้รับน้ำตาลนั่นเองจากข้อแนะนำทั้งหมดสามารถสรุปได้ว่าภาวะติดความหวานนั้น อาจต้องให้เวลากับตัวเองสักหน่อยเพื่อปรับพฤติกรรมการบริโภค ไม่เพียงเท่านั้นการออกกำลังกายควบคู่ไปด้วยจะช่วยให้อัตราการเผาผลาญไขมันเพิ่มขึ้นซึ่งเป็นผลดีในการเปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน สุขภาพที่ดีก็อยู่ไม่ไกล เพราะสุขภาวะที่ดีเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้
ติดตามสาระใน EP.ถัดไปได้ที่ช่องทางนี้ หรือ www.worldmedsolution.com
บทความ : ติดหวาน กินอย่างไรห่างไกลโรค ?