ผิวขาวใสด้วย ไลโคปีน
ผิวขาวใสด้วย ไลโคปีน สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ สาระวันนี้โดนใจชาวไบรท์ สายสกินแคร์แบบธรรมชาติๆ เพราะนี่คือรหัสลับผิวสวยใส ที่ชื่อว่า “ไลโคปีน” ครับ บางท่านอาจเคยได้ยินผ่านหูบ้างจากผลิตภัณฑ์อาหารเสริม และเครื่องสำอาง วันนี้เรามาเจาะลึกกันครับว่าเจ้าสารไลโคปีนมีประโยชน์ในด้านใดบ้าง
รู้จักกับไลโคปีน
ไลโคปีน เป็นสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ที่ละลายได้ดีในไขมัน พบในพืชหรือผลไม้มีสีแดง เหลือง หรือส้ม โดยเฉาพในมะเขือเทศ โดยไลโคปีนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ที่มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระแรงที่สุดในกลุ่มแคโรทีนอยด์ โดยมีประสิทธิภาพในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูงกว่าเบต้าแคโรทีน (-carotene) 2 เท่า การศึกษาวิจัยทางคลีนิก พบว่า ไลโคปีน ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดด : การรับประทานไลโคปีน หรือมะเขือเทศเข้มข้นที่มีไลโคปีนในปริมาณ 8 – 16 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 10 – 12 สัปดาห์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดด โดยช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ถูกสร้างขึ้นหลังจากผิวได้รับแสงแดด และช่วยดูดซับรังสียูวีเอ และ รังสียูวีบี ทำให้ผิวทนต่อแสงแดดได้มากขึ้น และช่วยลดอาการผิวไหม้อันเกิดจากแสงแดด ทำให้ผิวไม่คล้ำเสียง่าย
คุณประโยชน์จากไลโคปีน
ปกป้องผิวลึกถึงระดับดีเอ็นเอ (DNA) : การรับประทานมะเขือเทศเข้มข้นที่มีไลโคปีน 16 มิลลิกรัมต่อวัน เป็นระยะเวลา 12 สัปดาห์ ช่วยปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายด้วยรังสียูวีในแสงแดดได้ลึกถึงระดับดีเอ็นเอ (DNA) โดยช่วยลดการทำลายดีเอ็นเอในเซลล์ไมโตคอนเดรียล (Mitochondrial) ซึ่งมีหน้าที่สำคัญในการสร้างพลังงานให้แก่เซลล์ต่างๆในร่างกาย รวมทั้งเซลล์ผิวด้วย และช่วยเพิ่มโปรคอลลาเจน (Procollagen) ซึ่งเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์คอลลาเจนเพิ่มขึ้นด้วย ทำให้ผิวแข็งแรง กระชับ และยืดหยุ่น จึงช่วยชะลอความเสื่อมของเซลล์ผิวได้ เพิ่มความชุ่มชื้นและปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายด้วยอนุมลอิสระ : ยังมีการวิจัยพบว่า การรับประทานสารในกลุ่มแคโรทีนอยด์ อย่างเช่น ไลโคปีน ร่วมกับ วิตามินอี จะเสริมฤทธิ์กันในการปกป้องเซลล์จากการถูกทำร้ายด้วยอนุมลอิสระ ช่วยลดอาการผิวไหม้แดดและช่วยให้ผิวไหม้แดดหายได้เร็วขึ้น รวมทั้ง วิตามินอี ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิวอีกด้วย
คุณประโยชน์จากส่วนต่างๆของมะเขือเทศซึ่งอุดมด้วยไลโคปีน
ใบ : ใช้รักษาหน้าเกรียมเนื่องจากถูกแดดเผา
ผล : ใช้เป็นยาระบาย ช่วยให้เจริญอาหาร แก้กระหายน้ำ แก้ไฟไหม้น้ำร้อนลวก ช่วยย่อยอาหาร และใช้ฟอกเลือด
น้ำมะเขือเทศที่คั้นใหม่ๆ : สามารถใช้ทำความสะอาดผิว ทำให้ผิวนุ่มเนียน จึงนิยมนำมะเขือเทศมาพอกหน้า และปัจจุบันก็มีการใช้น้ำมะเขือเทศเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางด้วย ในมะเขือเทศมีกรดอินทรีย์ น้ำตาล วิตามิน A, B, C และสารสำคัญในกลุ่มแคโรทีนอยด์อย่างไลโคปีน (lycopene) ที่ทำให้มะเขือเทศมีความโดดเด่นเหนือพืชผักอื่นๆ และยังมีการศึกษาฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาระบุอีกว่า มะเขือเทศและสารสำคัญต่างๆ โดยเฉพาะ สารไลโคปีน มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ ต้านการอักเสบ ช่วยลดไขมันและน้ำตาลในเลือด และมีฤทธิ์ต้านมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งมะเร็งต่อมลูกหมาก และยับยั้งการลุกลามของเซลล์มะเร็งดังกล่าวด้วย
สำหรับการบริโภคนั้นมีการศึกษาเปรียบเทียบปริมาณสารไลโคปีนในผลิตภัณฑ์ที่ทำจากมะเขือเทศ (ที่น้ำหนักเท่ากัน) เช่น ซอสมะเขือเทศ (Tomato ketchup) น้ำมะเขือเทศ ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น (Tomato paste) ซุปมะเขือเทศเข้มข้น มะเขือเทศปรุงสุก มะเขือเทศผง และมะเขือเทศสด ทำให้สามารถเรียงลำดับปริมาณของไลโคพีนจากน้อยไปมากได้ดังนี้
มะเขือเทศสด < มะเขือเทศปรุงสุก < ซุปมะเขือเทศเข้มข้น < น้ำมะเขือเทศ < ซอสมะเขือเทศ < มะเขือเทศผง < ผลิตภัณฑ์มะเขือเทศเข้มข้น
จะเห็นได้ว่ามะเขือเทศที่ผ่านกระบวนการและความร้อน จะมีปริมาณของสารไลโคปีนมากกว่ามะเขือเทศสด แต่อย่างไรก็ตาม การบริโภคมะเขือเทศสดก็จะทำให้ได้วิตามินและสารอื่นๆ ที่สลายไปในระหว่างกระบวนการผลิตแทนนั่นเองครับ
ติดตามสาระใน EP.ถัดไปได้ที่ช่องทางนี้ หรือ www.worldmedsolution.com
บทความ : ผิวขาวใสด้วย ไลโคปีน