WORLDMED CENTER Phi Phi

สอนลูกให้มีความสุข ด้วยปรัชญาลากอม

https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/MOTHERIFE-Tips-EP.1-5-เทคนิคดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์อย่าง-healthy-strong.mp4 เมื่อคุณแม่ต้อง…ดูแลตนเองระหว่างตั้งครรภ์ จะมีเทคนิคอย่างไรบ้างน๊า? สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ ยินดีต้อนรับเข้าสู่สาระประโยชน์ดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife Tips EP. แรกครับ สำหรับตอนนี้ก็ว่ากันถึงเทคนิคการดูแลตัวเองซึ่งถือเป็นข้อปฏิบัติสำคัญสำหรับการเป็นคุณแม่มือใหม่ครับ ทีมงาน Motherife หวังว่าเนื้อหาใน EP. แรกนี้และสาระใน EP. ถัดไปจะเคียงข้างคุณแม่ ร่วมเดินทางสู่พัฒนาการที่สมวัยของเจ้าตัวเล็กไปพร้อมๆกันครับ 5 เทคนิค ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ 5 เทคนิค ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ ดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์ อย่าง Healthy & Strong ด้วย 5 เทคนิค และนี่คือ 5 เทคนิคเบื้องต้นที่จะช่วยให้ทั้งคุณแม่และลูกน้อยมีแนวโน้มทางสุขภาพที่ดี 1.การฝากครรภ์ถือเป็นอันดับแรก หัวใจสำคัญของการ ดูแลตนเองช่วงตั้งครรภ์ คือ “การฝากครรภ์” นั่นเองครับ เพื่อที่คุณแม่จะได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญและเข้ารับการรักษา รวมทั้งวางแผนการดูแลตัวเองขณะตั้งครรภ์ได้อย่างถูกต้องและเหมาะสม โดยคุณแม่ควรเข้ารับการฝากครรภ์ก่อนอายุครรภ์ครบ 12 สัปดาห์ หรือให้เร็วที่สุดตั้งแต่รู้ตัวว่าตั้งครรภ์ เพื่อความปลอดภัยของคุณแม่และทารกในครรภ์ โดยแพทย์จะทำการนัดหมายเพื่อตรวจครรภ์ตลอดช่วงตั้งครรภ์ ไปจนถึงวันคลอดตามความเหมาะสมและตามภาวะแทรกซ้อนที่เกิดขณะตั้งครรภ์ 2.สารอาหารที่ดีมีผลต่อทารก   นอกจาก โปรตีนจาก เนื้อสัตว์ และ […]

ลูกสมาธิสั้น หรือ แค่ซน

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife Tips ครับ หลังจากที่ผู้ปกครองหลายท่านได้ชม Ep ที่ 4 ไปครับ จะมีภาวะหนึ่งที่เรียกว่า ADHD หรือโรคสมาธิสั้นนั่นเอง โดยโรคนี้มีสัญญาณเป็นอย่างไรต่างกับพฤติกรรมซนตามวัยอย่างไรบ้าง วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจประเด็นเหล่านี้ ผ่านหัวข้อ ” ลูกสมาธิสั้น หรือ แค่ซน “ กันครับ ลูกสมาธิสั้น หรือ แค่ซน https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.17-ลูกเป็นโรคสมาธิสั้นหรือแค่ซนตามวัยกันนะ.mp4       โรคสมาธิสั้น (Attention Deficit Hyperactivity Disorder – ADHD) คือ โรคทางพัฒนาการทางระบบประสาทที่มักส่งผลกระทบต่อเด็ก และมักแสดงอาการต่อเนื่องไปจนถึงวัยผู้ใหญ่ อาการของผู้ที่มีภาวะสมาธิสั้น มักมีลักษณะเฉพาะคือ สมาธิสั้น และความหุนหันพลันแล่น ซึ่งอาจรบกวนการทำงานหรือพัฒนาการในด้านต่าง ๆ โรคสมาธิสั้น จัดเป็นหนึ่งในความผิดปกติทางพัฒนาการทางระบบประสาทที่พบได้บ่อยที่สุดในเด็ก และอาจส่งผลกระทบต่อชีวิตในหลาย ๆ ด้าน เช่น อาจส่งผลต่อการเรียน ความสัมพันธ์ทางสังคม และคุณภาพชีวิต      […]

อาการร้อนๆหนาวๆหลังคลอด

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆ สำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife Tips เช่นเคยครับ สำหรับวันนี้จะมาไขข้อสงสัยที่คุณแม่หลังคลอดมักจะเผชิญกันครับ นั่นก็คือทำไมจู่ๆถึงมี อาการร้อนๆหนาวๆหลังคลอด วันนี้เรามาไขคำตอบเรื่องนี้กันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.16-อาการร้อนๆหนาวๆหลังคลอดของคุณแม่.mp4 อาการร้อนๆหนาวๆหลังคลอด อาการหนาวสั่นหลังคลอดเกิดจากสาเหตุใด ? อาการร้อนๆหนาวๆหลังคลอดเกิดจาก…… 1.จากการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนจากการที่ร่างกายเร่งผลิตฮอร์โมนจำนวนมากอย่างต่อเนื่องเป็นเวลานานซึ่งการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนนี้ทำให้เกิดอาการหนาวสั่นได้2.จากการสูญเสียเลือดและเสียน้ำเกลือแร่เป็นสาเหตุที่ร่างกายของอาจารย์ที่ ความแรงของกล้ามเนื้อตึงเครียดจึง เกิดอาการหนาวสั่นได้3.จากยาสลบสำหรับคุณแม่ที่ผ่าตัดทางหน้าท้องบัตรเครดิตลดต่ำลงเนื่องจากอาการหนาวสั่นได้ 4.จากน้ำเกลือหรือเลือดที่ร่างกายคุณแม่หลังคลอดได้รับน้ำเกลือ หรือเลือดจะเย็นกว่าอุณหภูมิในคุณแม่หลังคลอด ทำให้เกิดอาการสั่นได้ อาการตัวร้อนนั้นอาจมาจากอาการไข้หลังคลอด คุณแม่หลังคลอดอาจมีอาการไข้ ปวดหัว ตัวร้อน เกิดขึ้นได้ เป็นเพราะปฏิกิริยาตอบสนอง เมื่อร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง ซึ่งรักษาง่าย ไม่นานก็หาย ไม่มีอันตราย แต่ถ้าคุณแม่มีไข้พร้อมกับอาการอื่น ๆ อาจเป็นสัญญาณของโรคติดเชื้อรุนแรงที่จะตามมา และต้องได้รับการดูแลรักษาโดยด่วน เพราะบางอาการไข้หลังคลอดส่งผลต่อนมแม่ และการให้นมด้วย แนะวิธีปฏิบัติเมื่อมีอาการไข้หลังคลอด คุณแม่ควรมีการลุกจากที่นอน ขยับตัว ขยับขาเพื่อเข้าห้องน้ำบ่อยๆ และหมั่นกระดกข้อเท้าซ้ำๆเพื่อให้เลือดในร่างกายไหลเวียนได้ดียิ่งขึ้น เพราะหากเกิดการอุดตันของหลอดเลือดดำ ก็อาจเป็นสาเหตุให้มีไข้ได้นั่นเอง ดื่มน้ำเฉลี่ยวันละ 2 ลิตร เพื่อป้องกันการสูญเสียน้ำจากไข้ และน้ำยังจำเป็นต่อกระบวนการสร้างน้ำนมอีกด้วย คุณแม่ควรฝึกไอจากช่องท้อง เพื่อขับเสมหะที่ค้างอยู่ในหลอดลมออกมาให้หมด ในเคสคุณแม่ที่ใช้วิธีการผ่าคลอดควรใช้มือกดบริเวณแผลไว้ก่อน จากนั่นสูดลมหายใจเข้าลึกๆจึงค่อยไอออกมาครับ คุณแม่สามารถทานยาพาราเซตามอลเพื่อลดไข้หรือมียาทานตามแพทย์สั่ง ให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัดเพื่อป้องกันการดื้อยา ระหว่างมีไข้สามารถเช็ดตัวเพื่อให้อาการไข้บรรเทาลงได้ครับ […]

ลูกร้องไห้ไม่หยุด แบบนี้ใช่อาการโคลิครึเปล่า?

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife tips กันอีกเช่นเคยครับ ใน EP. ที่ 15 นี้ว่ากันถึงเรื่องของการร้องไห้แบบยาวนาน ลูกร้องไห้ไม่หยุด แบบนี้ใช่อาการโคลิครึเปล่า? ดังที่คุณแม่อาจเคยได้ยินหรือเคยเห็นในสื่อโซเชียล กรณีของเด็กที่ร้องไห้ยาวนานในที่สาธารณะ วันนี้เรามาทำความรู้จักและเข้าใจอาการการนี้ไปพร้อมๆกันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.15-ลูกร้องไห้ไม่หยุดแบบนี้ใช่อาการโคลิครึเปล่า.mp4 ลูกร้องไห้ไม่หยุด แบบนี้ใช่อาการโคลิครึเปล่า? คุณแม่สามารถสังเกตปฏิกิริยาของอาการโคลิคได้ดังต่อไปนี้ 1.ทารกจะร้องไห้ขึ้นมาแบบไม่มีสาเหตุและการร้องไห้นั้นอาจใช้เวลานานมากกว่า 3 ชั่วโมงต่อวันและร้องไห้อย่างน้อย 3 วันต่อสัปดาห์รวมทั้งร้องไห้ในลักษณะนี้ติดต่อกันได้นานถึง 3 สัปดาห์เลยที 2.นอกจากการร้องไห้แล้วระหว่างนั้น ทารกอาจแสดงอาการเหมือนเจ็บป่วยทางกายอาจมี เช่น กำหมัด แอ่นหลังขึ้นและยกเข่าขึ้นมาชิดหน้าท้อง และหากสังเกตดีๆทารกเวลาร้องไห้เค้าจะหน้าแดงจนสังเกตได้ครับ ปัจจัยที่อาจเป็นสาเหตุ ของอาการ “โคลิค” ได้แก่ 1.สิ่งเร้าและสภาพแวดล้อม : เนื่องจากร่างกายของเด็กทารกนั้นยังใหม่กับสภาพแวดล้อมทำให้ในบางครั้งอาจจะยังไม่คุ้นชินกับสภาพแวดล้อมหรือสิ่งเร้าต่างๆ เช่น แสง สี เสียง หรืออากาศ จึงทำให้เด็กทารกมีความไวต่อสิ่งเร้าและไม่สามารถปรับตัวได้ทัน จนร้องไห้แลไม่สามารถทำให้ตัวเองสงบลงได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วหากทารกมีความคับข้องใจแบบปกติการร้องไห้จะใช้เวลาราวๆ 30 นาทีหรือน้อยกว่าเท่านั้น 2.ร่างกายของเด็กที่มีความไวต่อระบบย่อยอาหาร : ทารกนั้นยังใหม่กับอาหารที่รับประทานเข้าไป ซึ่งในบางครั้งอาจทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะอาหารหรือกระเพาะอาหารย่อยได้ไม่ดี เมื่อเป็นเช่นนั้นจะทำให้ทารกเกิดอาการไม่สบายท้องแล้วตอบสนองต่อความไม่สบายทางการออกมานั่นเองครับ 3.การแพ้อาหาร : การแพ้อาหารเกิดได้เช่น การแพ้นมวัว […]

จัดท่านอนลูก อย่างไรให้ปลอดภัย?

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife tips กันอีกเช่นเคยครับ สำหรับ Ep.ที่ 14 ว่าด้วยเรื่องของการ จัดท่านอนลูก อย่างไรให้ปลอดภัย? เพราะหากจัดท่านอนไม่ถูกต้องตามหลักสรีระวิทยาหรือไม่คำนึงถึงกายภาพของลูกน้อยก็อาจไม่ปลอดภัยสำหรับทารกขณะนอนหลับได้ครับ วันนี้เราจึงจะมาทำความเข้าใจเกี่ยวกับการจัดท่านอนของเด็กวัยแรกเกิดจนถึง 1 ปีกันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.14-จัดท่านอนอย่างไร-ปลอดภัยสำหรับเบบี๋.mp4 5 เทคนิค ดูแลตัวเองระหว่างตั้งครรภ์ ดูแลตัวเองช่วงตั้งครรภ์ อย่าง Healthy & Strong ด้วย 5 เทคนิค วิธีการ จัดท่านอนลูก ช่วงขวบปีแรก แรกเกิด – 3 เดือน         คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูก “นอนตะแคงหรือนอนหงาย”  เพราะเป็นท่าที่เหมาะกับพัฒนาการของเด็กที่กล้ามเนื้อคอยังไม่ค่อยแข็งแรงนัก เด็กวัยนี้ทำได้เพียงแค่หันซ้ายและขวา ซึ่งท่านี้ลูกจะสามารถมองเห็นสิ่งแวดล้อมรอบตัว และเป็นการฝึกการมองเห็นไปในตัว ที่สำคัญคือไม่ควรให้เด็กวัยนี้นอนคว่ำ เพราะเสี่ยงกับโรค SIDS (Sudden Infant Death Syndrome) หรืออาการหลับไม่ตื่นในเด็กทารก อายุ 4-6 เดือน […]

อาหารเสริมเด็ก จำเป็นหรือไม่?

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife tips กันอีกเช่นเคยครับ สำหรับ Ep.ที่ 13 นี้ว่ากันด้วยเรื่องของอาหารเสริมครับ พูดถึงอาหารเสริมหลายท่านก็นึกถึงอาหารเสริมสำหรับผู้ใหญ่ที่จะช่วยเสริมโภชนาการต่างๆ เพื่อให้ร่างกายแข็งแรงใช่หรือไม่ครับ แล้วสำหรับทารกนั้น อาหารเสริมเด็ก จำเป็นหรือไม่? แล้วมีสารอาหารเสริมใดจำเป็นกับทารกบ้าง ? วันนี้เรามาไขคำตอบกันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.13-อาหารเสริมสำหรับเด็กจำเป็นจริงรึเปล่า.mp4 ทำความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการเสริม อาหารเสริมสำหรับเด็ก อาหารเสริมสำหรับเด็กและทารกคืออะไร ?          อาหารเสริมสำหรับเด็กและทารก คือกลุ่มอาหารที่มีสารอาหารและวิตามินต่างๆที่ทารกจำเป็นต้องได้รับเพิ่มเติมนอกเหนือจากน้ำนมแม่ ซึ่งแน่นอนว่าเมื่อเด็กนั้นยังเล็กและกินนมแม่อยู่ ทารกนั้นก็ยังไม่จำเป็นต้องได้รับวิตามินเสริมใดๆ เนื่องจากน้ำนมแม่นั้นมีสารอาหารที่เพียงพอต่อความต้องการของลูกอยู่แล้ว แต่เรื่องของสุขภาพก็เป็นเรื่องที่แตกต่างกันในแต่ละบุคคล สำหรับเด็กๆในกลุ่มที่แพทย์วนิจฉัยว่ามีโอกาสเสี่ยงขาดสารอาหาร กรณีนี้แพทย์จึงจะมีความเห็นมีการให้อาหารเสริมสำหรับเด็กๆครับวิตามินดี : วิตามินดีสำหรับเด็กนั้นจำเป็นมากสำหรับการเสริมสร้างกระดูกและฟันที่แข็งแรง โดยส่วนมากแล้วในน้ำนมแม่มักจะมีวิตามินดีในปริมาณที่น้อย ซึ่งอาจไม่เพียงพอต่อความต้องการของทารกแพทย์จึงแนะนำให้ทารกนั้นได้รับวิตามินดีเสริมให้ได้ราว 400 I.U. ( 20 มิลลิกรัม ) ต่อวัน ในรูปของอาหารเสริม  โดยเริ่มต้นตั้งแต่ช่วง 2-3 วันหลังคลอดธาตุเหล็ก(fe) : ธาตุเหล็กมีหน้าที่สำคัญในกระบวนการสร้างเม็ดเลือดให้แข็งแรง และให้ผลดีต่อพัฒนาการทางสมอง นอกจากนี้แพทย์อาจมีความเห็นให้เสริมธาตุเหล็กในทารกเพื่อป้องกันภาวะโลหิตจางอีกด้วยครับวิตามินซี : วิตามินที่จะมีส่วนช่วยในเรื่องของระบบภูมิคุ้มกันและยังทำหน้าที่สำคัญอย่างการดูดซึมธาตุเหล็กอีกด้วยครับวิตามินเอ : วิตามินที่จะมีส่วนช่วยในการบำรุงสุขภาพดวงตา และช่วยเรื่องภูมิคุ้มกันเช่นกันครับ กลุ่มวิตามินสำหรับเด็กที่แพทย์มักจะแนะนำให้ทานเสริมสำหรับทารก […]

เมื่อลูกน้อยเล่นน้ำลาย

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆ สำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ MOTHERIFE TIPs กันอีกเช่นเคยครับ เชื่อว่าคุณพ่อคุณแม่หลายท่านอาจเคยสังเกตว่า ลูกมักจะเล่นน้ำลาย เล่นเป่าปาก และพยายามส่งเสียงออกมา จนทำให้เกิดความสงสัยว่า เมื่อลูกน้อยเล่นน้ำลาย เป็นสัญญาณบ่งบอกอะไร เป็นเรื่องน่ากังวลและจะส่งผลต่อพัฒนาการรึเปล่า วันนี้เรามาติดตามเรื่องนี้ไปพร้อมกันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.12-เมื่อลูกน้อยเล่นน้ำลาย.mp4 เมื่อลูกน้อยเล่นน้ำลาย ลูกเล่นน้ำลาย รับมืออย่างไรและจะติดเป็นนิสัยรึเปล่า ?             เมื่อลูกน้อยค่อยๆเติบโตขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความกังวลใจกับพฤติกกรรมที่ลูกมักจะเล่นน้ำลาย หรือเล่นเสียง และประกอบกับการเป่าน้ำลายอยู่บ่อยๆ จนคุณพ่อคุณแม่กลัวจะเป็นพฤติกรรมติดตัวไปจนกระทั้งเค้าเติบโต คำถามคือจำเป็นต้องหยุดยั้งพฤติกรรมนี้หรือเปล่า คำตอบคือ “ไม่จำเป็นครับ” เพราะนี่เป็นการที่ลูกกำลังหัดพูด และหัดสื่อสารนั่นเองครับ สังเกตง่ายๆคือ เมื่อเค้ามีอายุ 1-4 เดือน ลูกน้อยก็จะเริ่มเริ่มทำเสียงในคอ และพอเข้าสู่เดือนที่ 5 เดือน เค้าจะพยายามเล่นน้ำลาย ส่งเสียงหลายโทนเสียงมากยิ่งขึ้น ยิ่งคุณพ่อคุณแม่เล่นน้ำลายกับลูก ทำเสียงต่าง ๆ ลูกก็จะเลียนแบบและเรียนรู้ได้ไวขึ้นครับ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อพัฒนาการทางภาษาและการพูดของลูก และนอกจากพัฒนาการด้านการพูดแล้ว การเล่นน้ำลายยังช่วยเสริมสร้างขากรรไกรและริมฝีปากให้แข็งแรง ช่วยในการรับประทานอาหารและสามารถปิดปากเพื่อป้องกันอาหารและน้ำหกออกจากปากได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในทางตรงกันข้ามครับ […]

อาหารที่แม่ลูกอ่อน ควรเลี่ยง!

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife Tips กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้ว่าด้วยเรื่องของ อาหารที่แม่ลูกอ่อน ควรเลี่ยง! หากอาหารที่คุณแม่เลือกทานมีประโยชน์ แน่นอนครับว่าจะส่งผลดีต่อพัฒนาการที่เหมาะสมของเจ้าตัวเล็กครับ แต่ในทางตรงกันข้ามครับ อาหารบางชนิดอาหารอาจส่งผล ต่อพัฒนาการของเจ้าตัวเล็กได้ครับหากเผลอรับประทานเข้าไปไม่ว่าจะมากหรือน้อย วันนี้มารับชมสาระในประเด็นนี้ไปพร้อมๆกันครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.11-7-กลุ่มอาหารควรเลี่ยงสำหรับคุณแม่ให้นมบุตร.mp4 อาหารที่คุณแม่ให้นมบุตรควรเลี่ยง มีดังนี้ 1.อาหารดิบ       อาหารที่ไม่ผ่านการปรุงสุก อาจทำให้คุณแม่เกิดภาวะติดเชื้อตามมาและมีอาการท้องเสียจากภาวะอาหารเป็นพิษได้ครับ ตรงนี้คุณแม่ควรหลีกเลี่ยงครับ2.อาหารทะเล       กลุ่มอาหารทะเลไม่ว่าจะเป็น กุ้ง หอย ปู ปลา อาหารจะพวกนี้ครับอาจมีสารปนเปื้อนที่เป็นอันตรายต่อพัฒนาการทางระบบประสาทส่วนกลางของเด็กได้ นั่นอาจส่งผลให้เด็กมีพัฒนาการที่ล่าช้าและผิดปกติได้3.ขนม ของหวาน ของทอด ของมัน        เชื่อว่าคุณแม่บางท่านอาจจะชื่นชอบรับประทาน นั่นคือ ขนมและของหวานนั่นเอง อาหารจำพวกของหวาน ของมันอาจทำให้ท่อน้ำนมของคุณแม่อุดตันได้ ซึ่งการงดอาหารหวาน อาหารมันต่างๆ จะช่วยในเรื่องของสุขภาพโดยรวมของคุณแม่ไม่ว่าเป็นการป้องกันการเกิดเบาหวานและโรคอ้วน ส่วนนี้จะช่วยได้ทั้งตัวคุณแม่เองและลูกน้อยเลยจ้า4.ผลไม้รสเปรี้ยว        ข้อนี้ไม่หลายท่านอาจจะไม่ทราบ เพราะการทานผลไม้รสเปรี้ยวนั้น อาจก่อให้เกิดอาการระคายเคืองบริเวณผิวหนังเนื่องจากความเป็นกรดในผลไม้นั่นเอง […]

ปริมาณน้ำนม ที่ทารกต้องการ ช่วงขวบปีแรก

สวัสดีคุณแม่ทุกท่านครับกลับมาพบกับสาระสุขภาพสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife TIPs ใน Ep.10 กันครับ จาก ep ก่อนๆ ที่ Motherife ได้เสนอสาระว่าด้วยเรื่องของการปั๊มน้ำนมของคุณแม่ หลังจากนั้นจึงมีคุณพ่อคุณแม่หลายท่านคงมีความสงสัยว่า ปริมาณน้ำนม ที่ทารกต้องการ ช่วงขวบปีแรก ควรจะได้รับในปริมาณเท่าไรจึงจะเหมาะสม เนื่องจากความต้องการนมของเด็กแต่ละคนไม่เท่ากัน ตามตัวแปรด้านอายุและน้ำหนัก รวมถึงลักษณะเฉพาะตัวของเด็กแต่ละคน วันนี้ motherife จึงถือโอกาสนี้ในการแชร์สาระที่เป็นประโยชน์นี้แก่คุณแม่ทุกท่านครับ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.10-ทารกแรกเกิดถึง1ปีต้องการดื่มน้ำนมเท่าไหร่กันนะ.mp4 ปริมาณน้ำนม ที่ทารกต้องการ ช่วงขวบปีแรก ปริมาณการให้นมลูกน้อยตั้งแต่แรกเกิดถึง 1 ขวบนั้น ลูกจะต้องทานนมเท่าไรจึงจะอิ่มพอดี เริ่มที่ ช่วงแรกเกิด – 1 วัน           องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟ มีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ว่าควรให้นมแก่เจ้าตัวเล็กทันที ในช่วง 1 ชั่วโมงแรกหลังคลอด และควรให้นมแม่เพียงอย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรก เมื่อหนูน้อยลืมตาดูโลก กลุ่มน้ำนมกลุ่มแรกที่เค้าต้องการจะอยู่ที่เพียงแค่ 1 ช้อนชา หรือ 5 […]

วิธีสต็อคน้ำนมแม่ อย่างมีประสิทธิภาพ

สวัสดีคุณแม่ผู้รักสุขภาพทุกท่านค่ะ ^^ กลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆสำหรับคุณแม่และลูกน้อยกับ Motherife Tips EP. ที่ 9 กันแล้วนะค๊ะ วันนี้เป็นเรื่องราวของ น้ำนมแม่ เนื่องจากน้ำนมแม่มีสารอาหารที่ค่อนข้างครบถ้วน มีความสำคัญอย่างยิ่งกับเด็กวัยแรกเกิด ช่วยให้ทารกมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการที่สมบูรณ์ และสำหรับคุณแม่ เวลาต้องออกไปทำงานนอกบ้านแล้วต้องปั๊มน้ำนมเก็บไว้ วันนี้เรามาเผยขั้นตอนและ วิธีสต็อคน้ำนมแม่ อย่างมีประสิทธิภาพ กันค่ะ https://worldmed.center/wp-content/uploads/2023/11/Motherife-Tips-EP.9-มาสต็อคน้ำนมแม่อย่างมีประสิทธิภาพ.mp4 วิธีการเก็บน้ำนมแม่ที่ง่ายที่สุดและสะดวกมั่นใจได้มากที่สุดนั่นก็คือการเก็บไว้ในตู้เย็น การเก็บน้ำนมที่ปั๊มแล้วไว้ในช่องต่างๆในตู้เย็น สำหรับช่องธรรมดาที่ไม่มีของอื่นปะปนอยู่เลยจะเก็บได้ราวๆ 5 วัน ถ้าเก็บในช่องธรรมดาที่มีของอื่นปะปนอยู่ด้วยก็จะเก็บได้ราวๆ 2-3 วัน (72 ชั่วโมง)หากเก็บไว้ในช่องแช่แข็งถ้าเก็บได้ประมาณ 2 สัปดาห์แต่ถ้าบ้านไหนมีตู้เย็นแบบประตูช่องแช่แข็งแยกจากประตูใหญ่แล้วก็จะเก็บไว้ได้นานถึง 3 เดือนกรณีฉุกเฉิน คุณแม่สามารถใช้กระติกน้ำแข็งทดแทนได้จ้า สต็อคน้ำนม อย่างเหมาะสมสามารถปฏิบัติได้ดังนี้ 1.ภาชนะทุกชนิดที่นำมาใช้คนผ่านการฆ่าเชื้อทุกครั้ง โดยแนะนำให้ใช้ถุงเก็บน้ำนมโดยเฉพาะ เพราะนอกจากจะทำให้น้ำนมแข็งเร็วแล้ว การละลายยังทำได้ง่ายและรวดเร็วอีกด้วย แต่สำหรับภาชนะที่เป็นแก้วนั้นหลังจากนั้นไม่แนะนำครับนั่นเพราะเซลล์เม็ดเลือดขาวในน้ำนมแม่ที่มีคุณสมบัติในการช่วยป้องกันการการติดเชื้อนั้นอาจจะติดอยู่กับแก้วที่ใช้เป็นภาชนะได้ 2.คุณแม่ควรติดฉลากที่หน้าถุงเก็บน้ำนมคุณแม่ทุกครั้ง โดยเขียนกำกับด้วยว่าน้ำนมปั๊มวันที่เท่าไหร่ เวลาอะไรเพื่อให้ง่ายต่อการนำมาใช้ เพื่อให้การเก็บรักษาน้ำนมเป็นไปตามระบบนั่นเอง 3.ควรล้างมือให้สะอาดทุกครั้งก่อนการปั๊มน้ำนม รวมถึงอุปกรณ์ทุกอย่างที่นำมาใช้จะต้องสะอาดอยู่เสมอเพื่อป้องกันแบคทีเรียจากปนเปื้อนเข้ามาในน้ำนมได้ 4.หากคุณแม่ต้องการแช่แข็งน้ำนมที่ปั๊มควรทำทันทีหลังจากที่ปั๊มนมเสร็จแล้ว นอกจากนั้นคุณแม่ไม่ควรปั๊มจนเต็มถุงควรเหลือพื้นที่ว่าเอาไว้นิดนึงเพราะเมื่อแช่แข็งแล้ว น้ำนมจะขยายตัวมากขึ้นอาจทำให้หกเลอะเทอะได้จ้า 5.น้ำนมแม่ที่แช่แข็งไว้นั้นหากต้องการนำมาใช้ ให้ทำการละลายด้วยการแช่ในตู้เย็นปกติประมาณ 12 […]