WORLDMED CENTER Phi Phi

ออกกำลังกายอย่างไร ให้ดีต่อ(หัว)ใจ

ออกกำลังกายอย่างไร ให้ดีต่อ(หัว)ใจ การออกกำลังกายมอบประโยชน์แก่ผู้ปฏิบัติได้หลายประการ ได้แก่ 1. สุขภาพดีขึ้น ไม่เจ็บป่วยง่าย ป้องกันการเกิดโรคต่าง ๆ 2. ทำให้สุขภาพจิตดีขึ้น อารมณ์ไม่แปรปรวน 3. ช่วยลดความเครียดและความวิตกกังวล 4. ช่วยให้นอนหลับดีขึ้น 5. ช่วยให้สมองทำงานได้ดีขึ้น 6. ทำให้กระฉับกระเฉง มีพลังในการทำสิ่งต่าง ๆ ในชีวิตประจำวัน 7. ทำให้เคลื่อนไหวร่างกายดีขึ้น ลดการปวดเมื่อย และคุณภาพชีวิตดีขึ้น 8. ทำให้ระบบขับถ่ายทำงานดีขึ้น 9. เพิ่มความหนาแน่นของมวลกระดูก ทำให้กระดูกแข็งแรงขึ้น 10. ช่วยลดความเลี่ยงที่จะเกิดอาการบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุได้ 11. ช่วยกินอาหารได้มากขึ้น โดยที่ยังรักษารูปร่างได้ 12. ช่วยให้ดูเด็กกว่าอายุจริง การออกกำลังกายอย่างพอดีช่วยให้หัวใจแข็งแรงได้ ดังที่หัวข้อได้กล่าวไว้การออกกำลังกายอย่าง”พอดี”จะส่งผลให้เกิดประโยชน์ในทางตรงกันข้าม ในช่วงหลายปีมานี้ท่านอาจเคยได้ยินข่าวเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตจากการการออกกำลังกายซึ่งมีสาเหตุแตกต่างกันออกไป แต่สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญในเรื่องนี้คือ “หัวใจ” โดยปกติแล้วอัตราการเต้นของหัวใจ (heart rate) ในขณะที่เราอยู่เฉยๆ ปกติจะอยู่ที่ 70-90 ครั้งต่อนาที แต่เมื่อออกกำลังกาย หัวใจจะเต้นถี่ขึ้นเป็น 100-135 ครั้งต่อนาที […]

สูญเสียมวลกล้ามเนื้อ จากการขาดการออกกำลังกาย

อาการของภาวะมวลกล้ามเนื้อพร่อง เป็นอย่างไร ?         ภาวะมวลกล้ามเนื้อพร่อง (Sarcopenia) ซึ่งโดยปกติแล้วมักพบในผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่ปัจจุบันกลับพบว่าภาวะนี้ก็สามารถเกิดขึ้นในกลุ่มอายุน้อยกว่า 60 ปีได้มากขึ้น ยิ่งในช่วงสถานการณ์ COVID-19 ตลอดช่วงที่ผ่านมา อาจทำให้กิจวัตรที่ปฏิบัติประจำถูกจำกัด บางท่านขาดการออกกำลังกาย หรือหลายท่านรับประทานอาหารที่มีโปรตีนไม่เพียงพอ ซึ่งล้วนแต่เป็นสาเหตุทำให้สูญเสียมวลกล้ามเนื้อได้ กลุ่มอาการที่พบจะประกอบด้วย หนื่อยล้าง่าย เดิน วิ่งได้ระยะทางสั้นลง ลุกยืนลำบาก ขึ้นลงบันไดลำบาก ทรงตัวได้ไม่ดี เซล้มง่าย น้ำหนักลดลง กล้ามเนื้อเหลว ยกของได้น้อยลง ล้าแขนง่าย คุณภาพชีวิตลดลง และอาจเกิดโรคซึมเศร้า นำไปสู่ภาวะกระดูกพรุนหรือภาวะติดเตียงได้เมื่อเข้าสู่วัยสูงอายุ หากมีอาการที่สงสัยว่าเป็นภาวะกล้ามเนื้อพร่อง ควรรีบพบแพทย์เวชศาสตร์ฟื้นฟู เพื่อเข้ารับการตรวจประเมินมวลกล้ามเนื้อ ด้วยเครื่องมือ Bioelectrical Impedence Analysis (BIA) หากพบว่ามวลกล้ามเนื้อน้อยแพทย์จะแนะนำให้ทำกายภาพบำบัดด้วยโปรแกรมเฉพาะบุคคล เพื่อฟื้นฟูมวลกล้ามเนื้อและเพิ่มความแข็งแรงของร่างกาย เพื่อให้สามารถกลับมาทำกิจกรรมต่างๆ หรือเล่นกีฬาได้ดังเดิม การป้องกันภาวะมวลกล้ามเนื้อบกพร่อง (Sarcopenia) ภาวะ Sarcopenia อาจป้องกันได้ด้วยการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอทุกวันอย่างน้อยวันละครึ่งชั่วโมง เพื่อเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่กล้ามเนื้อและร่างกายส่วนต่าง ๆ  […]

วิธีวิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น

5 วิธีวิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น การหายใจควรหายใจอย่างเป็นธรรมชาติ ถ้าหายใจไม่ทันแสดงว่าวิ่งเร็วเกินไปให้ลดความเร็วในการวิ่งลง การหายใจด้วยกล้ามเนื้อกระบังลม ( Abdominal Breathing ) คือ เวลาหายใจเข้ากล้ามเนื้อกระบังลมจะเคลื่อนตัวลงทำให้ลมเข้าไปในปอด หน้าท้องจะพองหรือขยายตัว ( พุงป่อง ) และ เวลาหายใจออก กล้ามเนื้อกระบังลมจะเคลื่อนตัวขึ้น พุงจะยุบ วิธีการหายใจแบบนี้จะทำให้ไม่จุกเสียดชายโครงถ้าวิ่งนาน ๆ รองเท้าและชุดวิ่งรองเท้าต้องเป็นรองเท้าสำหรับวิ่งเท่านั้น เพราะออกแบบสำหรับวิ่ง เพื่อรับแรงกระแทกและน้ำหนักของร่างกายได้ดี ควรเผื่อไซส์ให้หลวมเล็กน้อยไม่พอดีจนเกินไป พอที่จะเอานิ้วคั่นระหว่างส้นเท้ากับส่วนหลังของรองเท้าได้ เพราะหากรองเท้าคับเกินไป เท้าอาจพองหรือเจ็บได้ ส่วนชุดที่สวมใส่ขณะวิ่งควรเลือกที่มีน้ำหนักเบา สบายผิว ระบายความร้อนได้ดี เลี่ยงชุดที่มีตะเข็บแข็งๆ หรือรัดแน่นจนเกินไป การจัดมือเรียงนิ้วเหมือนการฟันมือแบบคาราเต้ เพื่อความลู่ลมในการเหวี่ยงแขน หากพื้นที่วิ่งไม่ค่อยเรียบหรือทัศนวิสัยไม่ค่อยดีหากวิ่งตอนเช้ามืดหรือตอนกลางคืนแล้วมองพื้นไม่ค่อยเห็น ให้ลองยกเท้าให้สูงขึ้นอีกนิด 15-20 นาทีแรกควรวิ่งช้าๆ เบาๆก่อนวิ่งช้าๆ เบาๆ วอร์มร่างกายเพื่อปรับให้สภาพร่างกายและการเต้นของหัวใจให้ค่อยๆ แรงขึ้น รวมไปถึงแขนขาด้วย ติดตามสาระใน EP.ถัดไปได้ที่ช่องทางนี้ หรือ www.worldmedsolution.com บทความ : 5 วิธีวิ่งสำหรับผู้เริ่มต้น กลับสู่หน้าหลักบทความ

อยากวิ่งลดหุ่นตอนเย็น แต่เข่าไม่ดีทำไง ?

        อยากวิ่งลดหุ่นตอนเย็น แต่เข่าไม่ดีทำไง ? สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ มีคำถามจากท่านผู้รักสุขภาพมากมายครับ และหนึ่งในคำถามที่แอดมินจะหยิบยกมาไขข้อข้องใจในวันนี้คือ อยากวิ่งลดหุ่นตอนเย็นหลังเลิกงาน แต่เข่าไม่ดีทำอย่างไร ? กรณีนี้จะอธิบายทั้งตัวแปรด้านนำหนักกายและภาวะโรคเกี่ยวกับเข่านะครับว่าจะสามารถออกกำลังกายแบบเซฟตี้อย่างไร แบบไหนบ้าง ติดตามไปพร้อมกันครับ เหตุใดผู้ที่เจ็บเข่าไม่ควรวิ่ง ?           นั่นเพราะในขณะที่วิ่งบางท่านจะมีจังหวะก้าวที่ยาว และการก้าวยาวเกินไปนั้น หรือที่เรียกว่า Overstride นั่นคือ การวิ่งลงส้นในขณะที่เข่าตึง ซึ่งจะทำให้เกิดแรงกระแทกขึ้นมาถึงบริเวณเข่าได้มาก ทำให้กล้ามเนื้อช่วยรับแรงได้น้อย เปรียบเสมือนการตอกเสาเข็มที่หากวิ่งลักษณะนี้เป็นเวลายาวนานต่อเนื่องจะทำให้เกิดอาการบาดเจ็บได้ครับ แต่ก็มีเทคนิคครับ ขณะวิ่งให้ท่านงอลำตัวไปข้างหน้า15 องศา จะทำให้ก้าวยาวยากขึ้น จะช่วยลดโอกาสการเกิด Overstride ได้ครับ และจะต้องมีการฝึกวิ่งลงเท้าโดยค่อนไปทางหน้าเท้าแทนการวิ่งลงส้นครับ เทคนิคการเดินเร็วสำหรับท่านที่น้ำหนักตัวมาก         การเดินเร็วหรือ Brisk Walking เป็นการออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอรูปแบบหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นการทำงานของหัวใจและเพิ่มการเผาผลาญ หากทำเป็นประจำอาจช่วยลดน้ำหนักตัวและไขมันได้ดีด้วย1.เริ่มจากการการอบอุ่นร่างกายหรือวอร์มอัพ (Warm […]

กินตามใจ วิ่งเท่าไหร่ถึงเผาผลาญหมด

 กินตามใจ วิ่งเท่าไหร่ถึงเผาผลาญหมด สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้มาดูเกร็ดข้อมูลเกี่ยวกับการบริโภคอาหารกันครับ อาหารยอดนิยมที่หากทานแล้วนำไปสู่โรคอ้วน หากทานในปริมาณมากๆต่อเนื่องยาวนาน แต่ถึงกระนั้นวินัยช่วยได้ครับ การวิ่งเพื่อเผาผลาญพลังงานไม่ใช่แค่ไขมัน แต่คือการเผาผลาญแป้งและน้ำตาลด้วย การเผาผลาญพลังงานจากการกิน จึงสรุปได้ดังนี้ครับ 1.การวิ่งเป็นกิจกรรมที่ใช้พลังงานมากที่สุด ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนักตัว หรือควบคุมน้ำหนักที่เหมาะสม โดยการวิ่ง 1 กิโลเมตรจะเผาผลาญพลังงานประมาณ 100-150 กิโลแคลอรี่ ขึ้นอยู่กับน้ำหนักและความเร็วของการวิ่ง 2.การเผาผลาญพลังงาน เพื่อลดน้ำหนักตัว จำเป็นต้องเผาผลาญพลังงานมากกว่าที่บริโภค โดยค่าเฉลี่ยอย่างที่ทราบกันคือ คนทั่วไป ทานไม่เกิน 2000 กิโลแคลอรี่ ทานมากกว่านี้นั่นหมายความว่าอาจเป็นพลังงานส่วนเกิน ปฏิบัติโดยการลดปริมาณอาหารที่บริโภคหรือจัดสัดส่วนโภชนาการในแต่ละมื้อให้เหมาะสม และ เพิ่มกิจกรรมการออกกำลังกาย  เพื่อให้  มีการเผาผลาญพลังงานที่มากขึ้น 3.ความสำคัญของโภชนาการในการวิ่ง เพื่อให้สามารถวิ่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ คุณต้องรักษาสมดุลของโภชนาการ การบริโภคอาหารที่มีปริมาณโปรตีน  คาร์โบไฮเดรต และไขมันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ อาหารที่เหมาะสมจะช่วยให้ร่างกายมีพลังงานที่เพียงพอสำหรับการวิ่ง และต่อไปนี้คือตัวอย่างอาหารพลังงานสูงที่เมื่อเปรียบเทียบ ด้วยการทดแทนด้วยการวิ่งเป็นระยะทางต่างๆ น้ำอัดลม (130-140 kcal วิ่ง 2 km.) ชานมไข่มุก  (360 […]

เป็นโรคไตดื่มชากาแฟเป็นประจำได้มั๊ย ?

              เป็นโรคไตดื่มชากาแฟเป็นประจำได้มั๊ย ? สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ สาระในวันนี้ว่าด้วยเรื่องของชา กาแฟ ซึ่งคนไทยนิยมดื่มกันเป็นที่แพร่หลาย สำหรับท่านที่มีร่างกายแข็งแรงไม่ได้เป็นโรคไตก่อนก็สามารถที่จะดื่มชาดื่มกาแฟได้ตามปกติ เพียงแต่ต้องระวังเรื่องของน้ำตาล ครีมเทียม นมข้นกันสักหน่อยครับ เนื่องจากความหวานอาจนำพาท่านไปสู่โรคเกี่ยวกับน้ำตาลในเลือดและปัญหาอ้วนลงพุงได้ แต่วันนี้เราจะมาพูดถึงการดื่ม ชากาแฟสำหรับท่านที่เป็นโรคไตกันครับ ว่าสำหรับหรับท่านที่เป็นโรคไตโดยเฉพาะระยะท้ายๆ สามารถดื่มชากาแฟเป็นประจำได้หรือไม่ ติดตามไปพร้อมกันครับ เป็นโรคไตดื่มกาแฟดื่มชาเป็นประจำได้หรือไม่ ? สำหรับท่านที่เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังระยะท้ายๆ “ต้องระมัดระวัง” การดื่มชาและกาแฟครับ สำหรับท่านที่เป็นโรคไตเสื่อมระยะแรกๆ ระยะ 1 ระยะ 2 อาจจะยังพอดื่มได้ครับ(ชา กาแฟไม่เติมน้ำตาล) แต่สำหรับคนที่เป็นโรคไตเสื่อมระยะท้ายๆตั้งแต่ระยะที่ 3,4 หรือ 5 ต้องระมัดระวังในการเลือกดื่มครับ เนื่องจากชาและกาแฟจะมีส่วนประกอบของ “โพแทสเซียม” และ “ฟอสฟอรัส” ที่สูง คนที่เป็นโรคไตเสื่อมระยะท้ายๆ ไตซึ่งทำหน้าที่ในการขับของเสียต่างๆก็จะมีความสามารถในการขับฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมลดลงด้วย หากรับประทานอาหารที่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมมากๆหรือติดต่อกันนานๆ ก็จะขับออกได้ไม่ดีครับ ถ้าระดับโพแทสเซียมในเลือดสูงมากเกินไปอาจจะทำให้หัวใจเต้นผิดปกติหรือหยุดเต้นได้ (ระดับโพแทสเซียมในเลือดควรน้อยกว่า […]

ภาวะขาดสารอาหารในเด็ก ป้องกันอย่างไร

                ภาวะขาดสารอาหารในเด็ก ป้องกันอย่างไร วันนี้มาดูกันว่าเด็กวัยใดขาดสารอาหารมากที่สุด? จากข้อมูลที่มีอยู่พบว่า “เด็กก่อนวัยเรียน” เป็นวัยที่เผชิญภาวะนี้มากที่สุด ซึ่งวัยนี้มีการเจริญเติบโตทางด้านร่างกายที่รวดเร็ว ความต้องการโปรตีนและสารอาหารต่อน้ำหนักตัวจะสูงกว่าวัยอื่นๆ ปัจจัยที่ไม่อาจละเลยคือความใส่ใจของปกครอง เนื่องจากเด็กวัยนี้ยังไม่สามารถกินอาหารด้วยตนเองได้อย่างเต็มที่ ผู้ปกครองจึงควรให้ความสำคัญกับมื้ออาหารให้มีโภชนาการที่เหมาะสมในปริมาณที่เพียงพอ นอกจากนั้นเด็กวัยนี้ยังมีโอกาสติดเชื้อมากกว่าวัยอื่นๆ การเสริมภูมิต้านทานโรคจึงสามารถกล่าวได้ว่ามีความสอดคล้องกับโภชนาการส่วนบุคคลของเด็กเป็นอย่างมาก หมั่นสังเกตสัญญาณที่บ่งชี้ว่าเด็กๆกำลังประสบ ภาวะขาดสารอาหารในเด็ก ? 1. มีอาการซึมเศร้า ไม่ร่าเริง2. น้ำหนักน้อยกว่าปกติ3. รู้สึกกระสับกระส่าย ไฮเปอร์อยู่ตลอดเวลา4. มีอาการตาเหลือง5. มีภาวะพูดช้า6. ไม่สนใจสิ่งแวดล้อม7. ผิวหนังแห้ง8. มีปัญหาเกี่ยวกับเส้นผมบาง ผมขาดง่าย ไม่เเข็งแรง9. รู้สึกเบื่ออาหาร10. ผิวหนังเหี่ยวย่น ตาลึก แก้มตอบ ความต้องสารอาหารของเด็กเป็นอย่างไร ?           ทารกในขวบปีแรก ต้องการกำลังงานต่อวันประมาณ 80-120 กิโลแคลอรี/กก./วัน อันประกอบไปด้วยสารอาหารจำพวก คาร์โบไฮเดรต 40-60 […]

สัญญาณเตือนของการ แก่ก่อนวัย

                  สัญญาณเตือนของการ แก่ก่อนวัย สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้แอดมินจะมาชวนทุกท่านลองเช็คสัญญาณเตือนว่าร่างกายของเรานั้น แก่ก่อนวัยกันกันหรือไม่ เพราะบางทีการที่คุณไม่สดชื่นไม่กระปรี้กระเปร่า อาจเป็นเพราะร่างกายของคุณเกิดภาวะเสื่อมสภาพโดยที่คุณไม่รู้ตัวมาก่อน มาติดตามไปพร้อมกันครับ สัญญาณเตือนของการ แก่ก่อนวัย ข้อ 1 เหนื่อยง่ายกว่าปกติ😩 หากพบว่าเมื่อก่อนเคยเดินขึ้นบันไดหรือยกของหนักก็ยังไม่เหนื่อยเท่าไหร่ แต่ว่ามาระยะหลังนั้นขึ้นบันไดไม่กี่ชั้นก็เหมือนกำลังปีนเขา หายใจไม่ทัน นอกจากจะเหนื่อยง่ายแล้วก็ยังจะมีอาการอ่อนแรงลงไปอีก เช่นจากเคยเปิดขวดน้ำได้สบายๆ แต่ช่วงหลังๆนั้น บิดแล้วบิดอีก ก็เปิดไม่ได้สักที เคยถือของหนักได้หลายกิโลกรัม ก็กลายเป็นถือของหนักไม่ค่อยจะไหว ปวดเมื่อยเนื้อตัวแปลกๆ นั่นอาจเป็นสัญญาณแก่ก่อนวัยที่ชัดเจนครับ ข้อที่ 2 ตาแดง 👁️ คุณอาจเริ่มสังเกตเห็นว่าลูกตาของคุณไม่ขาวใสเหมือนปกติ แต่กลายเป็นสีแดงๆ ดูอ่อนล้าซึ่งส่วนใหญ่เกิดจากการใช้สายตามากเกิน จากการใช้ชีวิตประจำวันหรือจาการทำงาน โดยเฉพาะการใช้สายตากับหน้าจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ซึ่งอาจจะก่อให้เกิดอาการกล้ามเนื้อตาอ่อนล้าและเส้นเลือดฝอยที่ตาทำงานหนักจนเกินไป จนทำให้เกิดอาการตาแดงเรื้อรังได้นั่นเองครับ ข้อ 3 ผิวหมองคล้ำ สีผิวที่ไม่สม่ำเสมอ ⚫ ⚪ […]

เจ็บคอไม่หาย เช็คด่วน

               เจ็บคอไม่หาย เสี่ยงโรค เช็คด่วน สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ เรื่องของอาการเจ็บคอเรื้อรัง เป็นปัญหาที่สร้างความรำคาญแก่ผู้ป่วยอยู่บ่อยครั้ง โดยผู้ป่วยเองอาจไม่ทราบภาวะสุขภาพของตนเองเนื่องจากไม่ค่อยได้ตรวจสุขภาพ วันนี้ Admin World med ได้นำสาระเกี่ยวกับโรคที่มีอาการเจ็บคอเรื้อรังมาฝากแฟนเพจทุกท่านครับ ลองสังเกตดูว่าท่านมีอาการตรงตามโรคใดบ้างหรือไม่ ติดตามไปพร้อมๆกันครับ เจ็บคอไม่หาย เสี่ยงโรค อะไรบ้าง 1.โรคไซนัสอักเสบเรื้อรัง โรคนี้จะทำให้มีการอักเสบของเยื่อบุจมูกเรื้อรัง ทำให้เยื่อบุจมูกบวม มีอาการคัดจมูกเรื้อรัง ทำให้ต้องหายใจทางปากตลอด เกิดเยื่อบุลำคอแห้ง มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนั้นสารคัดหลั่งจากไซนัสและจมูกที่อักเสบที่ไหลลงคอ จะทำให้มีอาการอักเสบ ระคายเคืองของผนังคอ ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้เช่นกัน 2.โรคเนื้องอกของคอและกล่องเสียง เนื้องอกอาจไปกดเบียดเส้นประสาท ทำให้มีอาการเจ็บคอเรื้อรังได้ นอกจากนั้นผู้ป่วยมักมีอาการ กลืนลำบาก น้ำหนักลด เบื่ออาหาร อาจมีเสมหะปนเลือด หรือปวดร้าวไปที่หูได้ 3.โรคกรดไหลย้อน ซึ่งกรดอาจไหลย้อนขึ้นมาที่ผนังคอ ทำให้เยื่อบุและกล้ามเนื้อของผนังคอมีการอักเสบ ทำให้มีอาการเจ็บคอเป็น ๆ หาย ๆได้ […]

ขาบวมอย่านิ่งนอนใจ สัณญาณบอกโรคที่คุณอาจไม่รู้

           ขาบวม อย่านิ่งนอนใจ สัณญาณบอกโรคที่คุณอาจไม่รู้ สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ พูดกันถึงเรื่องขาบวม นั่นถือเป็นอาการของผู้ป่วยที่มักประสบภาวะโรคต่างๆ แต่สำหรับบางท่านที่ไม่ค่อยได้ตรวจสุขภาพหรือไม่ค่อยได้ดูแลตนเองแล้วพบว่าตัวเองขาบวม บางที นี่อาจเป็นสัญญาณบอกโรคอะไรบางอย่างที่นิ่งนอนใจไม่ได้เลยครับ ว่าแต่จะเป็นโรคอะไรได้บ้าง ติดตามไปพร้อมกันวันนี้ครับ ขาบวมบอกโรคอะไร ? โรคที่ 1 โรคหัวใจล้มเหลว💗 โรคหัวใจล้มเหลวหรือว่าโรคหัวใจวายเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ขาบวมทั้ง 2 ข้างได้ โดยปกติแล้วหัวใจของเรามีหน้าที่ในการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆตามร่างกาย เมื่อเลือดไปเลี้ยงที่ขาเสร็จแล้วเลือดก็จะกลับมาที่หัวใจของเรา แต่เมื่อหัวใจของเราเกิดความผิดปกติขึ้นมา ไม่ว่าจะเป็นการขาดเลือด ลิ้นหัวใจรั่ว หรือหัวใจอักเสบ ก็จะทำให้หัวใจของเราล้มเหลว ความสามารถในการบีบเลือดออกจากหัวใจก็จะน้อยลง ส่งผลให้เลือดจากขากลับเข้าสู่หัวใจได้ช้าลงก็จะทำให้ขาบวมขึ้นเรื่อยๆ สำหรับท่านที่เป็นโรคหัวใจล้มเหลวขาจะบวม 2 ข้าง หรือท่านลองสังเกตง่ายๆบริเวณหน้าแข้งของเรานั้น ให้เอานิ้วชี้ไปกดสัก 10 วินาที จะเห็นได้ว่ามีอาการบวมครับ ดังนั้นลองสังเกตอาการตนเองดูนะครับถหากพบว่ามีอาการขาบวม 2 ข้าง ประกอบกับมีอาการหอบเหนื่อย ใจสั่น แน่นหน้าอก ลักษณะนี้ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วนครับ🚑 เนื่องจากคุณอาจจะหัวใจล้มเหลวแล้วก็เป็นได้ครับ โรคที่ 2 […]