WORLDMED CENTER Phi Phi

ทานพืชผักกลุ่มนี้มาก น้ำตาลในเลือดสูงไม่รู้ตัว

             ทานพืชผักกลุ่มนี้มาก น้ำตาลในเลือดสูงไม่รู้ตัว สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกลับมาพบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกครั้งหลังจากที่ไม่ได้นำเสนอบทความสุขภาพมาระยะหนึ่งครับ วันนี้ Admin Worldmed จึงหยิบเอาสาระเบาๆที่เป็นประโยชน์มาฝากครับ วันนี้ว่าด้วยเรื่องของ พืชผักที่ทานมากไปน้ำตาลในเลือดอาจพุ่งสูงไม่รู้ตัวครับ บางท่านอาจสงสัยครับว่าปกติแล้วกินผักนี่แหละดีไม่ใช่เหรอ ? วันนี้เราจึงมาไขข้อสงสัยให้กระจ่างครับว่ามีพืชผักใดบ้างที่เผลอทานมากไป อาจพาน้ำตาลในเลือดสูงได้ ทานพืชผักกลุ่มนี้มาก น้ำตาลในเลือดสูงไม่รู้ตัว ข้อที่ 1 มันฝรั่ง 🥔 : มันฝรั่งเป็นพืชชนิดหัว ซึ่งเวลาเรารับประทานเข้าไปแล้ว น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงแน่ๆ เนื่องจากพืชผักที่เป็นหัวแบบนี้จะเป็นแป้ง และเวลาแป้งเข้าสู่ร่างกาย ก็จะย่อยกลายเป็นน้ำตาลแล้วก็ดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดนั่นเองครับ ดังนั้น สำหรับท่านที่เป็นเบาหวาน หากทานมันฝรั่งเข้าไปเยอะๆไม่ว่าจะเป็นมันฝรั่งต้มหรือว่าเป็นมันฝรั่งแปรรูป ก็อาจจะทำให้น้ำตาลในเลือดสูง ต้องระมัดระวังในการทานครับ ถ้าต้องการทานอาจจะทานได้แต่น้อยครับและไม่ทานติดต่อกันนานๆ ก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดไม่สูงเกินเกณฑ์ครับ ข้อที่ 2 เผือก 🍠 : เผือกเป็นพืชผักชนิดหัวเช่นเดียวกับมันฝรั่งครับ การที่เรารับประทานเผือกมากๆก็จะทำให้น้ำตาลในเลือดสูงได้เช่นกัน นอกจากนี้เผือกก็เอาก็ถูกนำไปชุบน้ำตาล เอาไปต้มไปเชื่อม แปรรูปอะไรต่างๆ ให้ทานอร่อย ยิ่งให้น้ำตาลในเลือดสูงครับ […]

3อาหาร ตัวการกรดไหลย้อน

 3อาหาร ตัวการกรดไหลย้อน สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ สาระสุขภาพวันนี้ครับว่ากันถึงกรดไหลย้อน โรคยอดฮิตวัยทำงานหรือวัยอื่นๆก็เกิดขึ้นได้ โดยโรคกรดไหลย้อนก็คือการที่น้ำย่อยไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหารของเรา เป็นเหตุให้ระคายเคืองขึ้นมา มีอาการแสบร้อนกลางอก🔥 จุกท้อง เรอเหม็นเปรี้ยว🤢ท้องอืดและหลายท่านทราบดีอยู่แล้วว่าหากรับประทานอาหารรสจัดก็เสี่ยงที่จะเป็นกรดไหลย้อนได้ และท่านทราบหรือไม่ครับว่ามีอาหารอีกถึง 3 กลุ่มที่กระตุ้นกรดไหลย้อนไม่แพ้อาหารรสจัด🌶️ แถมมีอยู่มากมายในชีวิตประจำวัน วันนี้เราไปติดตามกันครับว่ามีอาหารประเภทใดบ้าง กินอะไรแล้วเป็นกรดไหลย้อน ? ข้อที่ 1 ของทอดต่างๆ🍟🍗 : ไม่ว่าจะเป็นไก่ทอด หมูทอด เฟรนฟราย เหล่านี้จะกระตุ้นเลยทำให้เกิดกรดไหลย้อนขึ้นมาได้ โดยไปทำให้หูรูดส่วนปลายของหลอดอาหารนคลายตัว ต้องบอกว่าโดยปกติแล้วนั้นหลอดอาหารของเราจะมีหูรูดอยู่ครับ ตรงส่วนปลายคอยปิดไม่ให้พวกอาหารหรือว่ากรดต่างๆไหลย้อนขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ⬆️แต่ถ้าเราบริโภคของทอด ของมันมากๆ หูรูดนี่แหละครับก็จะคลายตัว พอคลายและตัวกรดก็จะไหลขึ้นมาบริเวณหลอดอาหาร ทำให้เรามีอาการแสบร้อนกลางอก จุกคอขึ้นมาได้ครับ 😣และนอกจากของทอดแล้วสิ่งที่ต้องระวังก็คือพวกเนื้อสัตว์ติดมันครับ เพราะอาหารเหล่านี้กระตุ้นน้ำย่อยมากทีเดียวครับ ข้อที่ 2 ช็อกโกแลต🍫🍫 : ช็อกโกแลต ถือเป็นผลิตผลที่ได้จากการแปรรูปเมล็ดโกโก้ (Cocoa) ซึ่งในเมล็ดโกโก้นั้น มีสารในกลุ่ม Methylxanthines และคาเฟอีนเป็นองค์ประกอบอยู่ด้วย จึงทำให้หูรูดหลอดอาหารส่วนปลายมีการคลายตัวและกระตุ้นให้กระเพาะอาหารมีการหลั่งกรดเพิ่มมากขึ้นได้ นอกจากนี้ ในช็อกโกแลตยังมีเนยโกโก้ (Cocoa […]

ระวัง4โรค พาน้ำหนักลดฮวบ

           ระวัง4โรค พาน้ำหนักลดฮวบ สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ พูดกันถึงเรื่องน้ำหนักตัว หากเรานั้นมีสุขภาพที่ดี น้ำหนักก็จะอยู่ในเกณฑ์ที่เหมาะสม แต่จะมีอยู่บางสาเหตุที่การลดลงของน้ำหนักบ่งบอกถึงโรคมากกว่าจะเป็นการลดลงของน้ำหนักทั่วไป บางคนลดลงเป็น 10 กิโลกรัมภายในไม่กี่เดือน การที่น้ำหนักลดลงมากๆ แบบผิดปกติแบบนี้ เป็นสัญญาณบ่งบอกว่าอาจจะเป็นโรคอันตรายแล้วก็ได้หากเราไม่รีบรักษาครับ ระวัง 4 โรค พาน้ำหนักลดฮวบ โรคที่ 1 โรคมะเร็ง ♋โรคมะเร็งทุกโรคไม่ว่าจะเป็นมะเร็งกระเพาะ มะเร็งลำไส้ มะเร็งปอด มะเร็งตับอ่อน มะเร็งอะไรต่างๆ อาการหลักเลยนะครับนั่นก็คือ น้ำหนักลดครับ ซึ่งผู้ป่วยก็จะมีอาการเบื่ออาหาร ไม่อยากรับประทานอาหาร 🍽️แต่ละมื้ออาจจะทานได้แค่ 2-3 คำ กินน้ำหรือกินอะไรได้นิดๆหน่อยๆ ลดลงเรื่อย ๆเป็น 10 กิโลกรัมครับ ภายใน 1 เดือนหรือว่า 3 เดือนแบบนี้อันนี้อันตรายครับ แนะนำว่าให้รีบพบแพทย์เพื่อทำการตรวจวินิจฉัยต่อไป เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณของมะเร็งก็ได้ครับ โรคที่ 2 […]

5 สัญญาณเตือนอันตรายของไข้เลือดออก

5 สัญญาณเตือนอันตรายของไข้เลือดออก สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจทีเดียวครับสำหรับ โรคไข้เลือดออกในขณะนี้ 🇹🇭 ประเทศไทยของเรา ได้มีการระบาดของเชื้อไวรัสเดงกี (dengue virus) ไวรัสร้ายที่ทำให้ก่อโรคไข้เลือดออกขึ้นมานั่นเองครับ ซึ่งพาหะนำโรคที่ท่านทราบกันดี ก็คือ”ยุงลาย 🦟”นั่นเอง เมื่อยุงลายไปกัดคนที่เป็นโรคไข้เลือดออกแล้วก็มากัดเรา เราก็จะติดเชื้อไข้เลือดออกได้ครับ ซึ่งอาการของโรคมีหลากหลาย ตั้งแต่ไม่รุนแรง ไปจนรุนแรงมากๆต้องนอน ICU เลยทีเดียวครับ ดังนั้นการสังเกตสัญญาณเตือนโรคไข้เลือดออก จึงเป็นสิ่งจำเป็นมากๆครับ มาดูว่ามีสัญญาณใดกันบ้าง👀 เพื่อที่จะได้รับมือและเข้ารับการรักษาได้ทันท่วงทีครับ ไข้เลือดออก อาการเป็นอย่างไรบ้าง ? สัญญาณที่ 1 ไข้สูง อาการไข้สูงเป็นอาการหลักของโรคไข้เลือดออก ใครที่มีอาการไข้สูงมากๆ สูงถึงประมาณ 38-39 องศาเซลเซียส🌡️ รับประทานยาลดไข้แล้วอาการไม่ดีขึ้น เช็ดตัวก็แล้วทานยาก็แล้ว ไข้ยังสูงอยู่ อันนี้แหละครับเป็นอาการหนึ่งนะของไข้เลือดออกครับ แล้วก็อาการไข้นั้นอาจจะยาวนานได้ครับประมาณ 3-7 วันดังนั้นลองสังเกตตนเองดูครับ หากมีไข้เกิน 3 วันขึ้นไปแนะนำว่าควรมาพบแพทย์ครับ เพื่อเจาะเลือด 🧪 🩸 เพราะคุณอาจจะเป็นโรคไข้เลือดออกก็ได้ครับ สัญญาณที่ […]

4 โรคเสี่ยงเลี่ยงกาแฟด่วน

               4 โรคเสี่ยงเลี่ยงกาแฟ ด่วน! สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ หลังจากที่แอดมินได้เคยเสนอสาระเกี่ยวกับคุณประโยชน์ของกาแฟไปในหัวข้อก่อนๆ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่ามีท่านที่ประสบปัญหาเกี่ยวกับโรคบางโรค ที่ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพได้แนะนำให้เลี่ยงกาแฟไปก่อน จะมีโรคใดบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกันครับ มีโรคใดบ้างที่ควรงดการดื่มกาแฟ โรคที่ 1 โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ ใครที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะอยู่ หัวใจเต้นเร็วมากๆ เต้นพริ้วมากๆแนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟครับ เพราะว่ากาแฟอย่างที่ทราบกันคือจะมีคาเฟอีนที่จะยิ่งการกระตุ้นให้หัวใจของเราเต้นเร็วมากขึ้นครับ ส่งผลที่ไม่ดีต่อคนที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ แต่สำหรับคนที่เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ เมื่อรักษาหายแล้วหรือว่าควบคุมการเต้นหัวใจให้อยู่ในระดับปกติได้แล้ว ก็อาจจะดื่มกาแฟได้ครับ แต่อย่างไรก็ตามแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ประจำตัวก่อนดีที่สุดครับ โรคที่ 2 โรคนอนไม่หลับ ใครที่นอนไม่หลับหรือหลับไม่สนิท ตื่นกลางดึกแล้วนอนไม่หลับอีกเลย ลักษณะนี้แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการดื่มกาแฟเช่นกันครับ และเช่นเดียวกับข้อแรกครับ คาเฟอีนไปจะกระตุ้นประสาทของเราทำให้เราตื่นตัวอยู่เสมอ ดังนั้นหากเรายิ่งดื่มกาแฟเข้าไป ยิ่งถ้าดื่มก่อนนอนหรือช่วงหลังบ่ายสามเป็นต้นมา ก็จะทำให้คนที่เป็นโรคนอนไม่หลับ ยิ่งนอนไม่หลับหนักเข้าไปอีกครับ โรคที่ 3 โรคไตเสื่อมระยะท้ายๆ ใครที่เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังอยู่ยิ่งระยะท้ายๆนะตั้งแต่ 3B(อัตราการกรองลดลงปานกลางถึงมาก) ลักษณะนี้ต้องระมัดระวังในการดื่มกาแฟครับ เพราะว่าคนที่เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรังระยะท้ายๆ ความสามารถในการขับฟอสเฟตออกจากร่างกายก็จะต่ำลง ตัวกาแฟจะมีส่วนประกอบของฟอสเฟตอยู่เยอะ เมื่อเรารับประทานเข้าไปแล้วก็จะส่งผลทำให้ไตทำงานหนักมากขึ้น และทำให้ฟอสเฟตเพิ่มสูงขึ้นในเส้นเลือดของเรา และเมื่อฟอสเฟตมากขึ้นเรื่อยๆ ก็จะไปดึงแคลเซียมออกจากกระดูกของเราทำให้เกิดภาวะกระดูกพรุนในคนที่เป็นโรคไตเสื่อมเรื้อรัง […]

นอนกรนชนิดอันตราย เป็นอย่างไร?

นอนกรนชนิดอันตราย เป็นอย่างไร ? สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้เป็นเรื่องของการนอนกรนครับ อาการที่อาจสร้างความกังวลใจให้หลายๆท่าน โดยบางท่านอาจไม่ทราบว่าตัวเองกำลังนอนกรน หรือไม่ทราบว่า เริ่มกรนตั้งแต่เมื่อไหร่ และการนอนกรนนั้นส่งผลต่อสุขภาพหรือไม่ วันนี้แอดมินจะพาทุกท่านมาไขคำตอบกันครับ นอนกรนชนิดอันตราย แสดงอาการลักษณะใดบ้าง ทำไมเราจึงนอนกรน โดยปกติคนเราเมื่อนอนหลับ กล้ามเนื้อต่างๆ จะมีการคลายหรือหย่อนตัวลง ซึ่งอวัยวะในช่องทางเดินหายใจของเราอย่าง เพดานอ่อน หรือโคนลิ้น ก็จะหย่อนลงมาทำให้ทางเดินหายใจตีบแคบลงได้ โดยเฉพาะเวลาที่เรานอนหงาย พอช่องทางเดินหายใจมันแคบลง เวลาเราหายใจเอาอากาศเข้ามา ลมที่ผ่านช่องที่แคบนี้ ก็จะทำให้กล้ามเนื้อดังกล่าวเกิดการกระพือ (นึกภาพเวลาที่ลมเป่าลมผ่านหลอดเล็กๆ ) เมื่อกล้ามเนื้อเกิดการกระพือ หรือสั่นสะเทือน ก็จะเกิดเป็นเสียงกรนขึ้น และนี่ก็คือสาเหตุของการนอนกรนนั่นเองครับ ส่วนเสียงกรนที่เราได้ยินนั้นก็จะแตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับตำแหน่งของอวัยวะที่เกิดการสั่น เช่น ถ้าเกิดการสั่นที่เพดานอ่อน หรือลิ้นไก่ ก็จะทำให้เกิดเสียงกรน “ในลำคอ” หรือถ้าเกิดการสั่นที่เนื้อเยื่ออ่อนด้านหลังโพรงจมูก ก็จะทำให้เกิดเสียงกรน “แบบขึ้นจมูก” ท่านที่นอนกรนอาจมีสาเหตุจาก– น้ำหนักตัวเกินกว่าเกณฑ์มาตรฐาน เบื้องต้นดูได้จากค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ครับ– ไขมันในช่องคอหนา– ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เป็นประจำ ก็ทำให้กล้ามเนื้อหย่อนได้– นอนกรนมากขึ้นเมื่ออายุมากขึ้น– สูบบุหรี่เป็นประจำ– ความเหนื่อยล้า – นอนหงายเป็นประจำ การนอนกรนนั้นมีอันตรายอย่างไร ?จริงๆแล้วการนอนกรนจะอันตรายหรือไม่ ขึ้นอยู่กับระดับความผิดปกติของการนอน ถ้าเป็น “ชนิดไม่อันตราย” อันเกิดจากเนื้อเยื่อของอวัยวะต่างๆ ในช่องคอ […]

โรคที่มากับหน้าหนาว รับมืออย่างไร

โรคที่มากับหน้าหนาว มีอะไรบ้าง 1. โรคไข้หวัด และ โรคไข้หวัดใหญ่ สาเหตุ : ส่วนมากเกิดจากการติดเชื้อไวรัส ติดต่อจากการสูดละอองฝอยจากการไอจาม อาการ : ปวดศีรษะทั่วไปจึงถึงขั้นรุนแรง ไอ จาม น้ำมูกใส คัดจมูก ไข้ต่ำ ปวดเมื่อยตามตัว 2.โรคปอดบวม สาเหตุ : ปอดบวม คือภาวะปอดอักเสบจากเชื้อแบคทีเรียหรือเชื้อไวรัส จนทำให้มีหนองและสารปนเปื้อนภายในถุงลม อาการ : ผู้ป่วยมักมีอาการ คือ ไอ จาม มีเสมหะมาก แน่นหน้าอกจนหายใจไม่ออก คัดจมูก หนาวสั่น มีไข้สูงติดต่อกันเกิน 2 วัน ปอดบวมมักพบหลังจากการเป็นไข้หวัดเรื้อรัง และในผู้ป่วยโรคหอบหืด ปอดบวมมักพบบ่อยในกลุ่มผู้สูงอายุ และเด็กเล็กอายุระหว่าง 5 – 10 ปี 3. โรคภูมิแพ้ สาเหตุ : หน้าหนาวผู้ที่เป็นโรคภูมิแพ้อยู่เดิมอาจมีอาการมากขึ้น โดยเฉพาะช่วงอากาศเปลี่ยนใหม่ๆ ผู้ที่แพ้ไรฝุ่นจากที่นอน ควันบุหรี่ ขนสัตว์ มีโอกาสได้รับการกระตุ้นจากสารก่อภูมิแพ้มากขึ้น อาการ : ทำให้มีอาการคันจมูก คันตา จาม น้ำมูกใส […]

ติดหวาน กินอย่างไรห่างไกลโรค ?

ติดหวาน กินอย่างไรห่างไกลโรค ? พฤติกรรมการบริโภคอาหารที่ีมีส่วนผสมของน้ำตาล ซึ่งไม่ใช่การบริโภคในปริมาณทั่วๆไป แต่บริโภคในอัตราที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย ข้อมูลจากปี พ.ศ. 2553 พบว่าอัตราการบริโภคน้ำตาลของคนไทยเพิ่มขึ้นถึง 2.7 เท่า เฉลี่ยประมาณ 20-26 ช้อนชาต่อคนต่อวัน ซึ่งเกินจากปริมาณที่แนะนำ(ไม่เกิน 4-8 ช้อนชา) เพราะปริมาณน้ำตาลที่มากเกินความจำเป็นจะถูกเปลี่ยนให้เป็นไขมันสะสม ซึ่งเป็นสาเหตุของการก่อให้เกิดโรคต่างๆ ตามมา ไม่ว่าจะเป็น โรคอ้วน โรคหัวใจ หรือโรคเบาหวาน นอกจากนี้ยังส่งผลต่ิสุขภาพผิวพรรณ ทำให้ผิวของเราแห้งเหี่ยวก่อนวัยอันควรอีกด้วย เช็คสัญญาณ ติดหวาน หรือเปล่านะ ? ต้องทานอาหารหวานต่อจากอาหารคาวเป็นประจำ เติมน้ำตาลในอาหารทุกเมนู เช่น ก๋วยเตี๋ยว ไข่เจียวเติมน้ำตาล ทำพริกน้ำปลาเติมน้ำตาล มีอาการเพลีย หงุดหงิด หรืออารมณ์ไม่ดี เมื่อขาดอาหารหรือขนมที่มีส่วนประกอบของแป้งหรือน้ำตาล หิวบ่อย ชอบทานผลไม้แห้ง ผลไม้ดอง หรือผลไม้แช่อิ่ม วิธีลดหวานอย่างปลอดภัยห่างไกลโรค 1.เริ่มลดแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะการเลิกกินของหวานทั้งหมดแบบทันที ร่างกายจะมีอาการขาดน้ำตาล เช่น หน้ามืด เวียนศีรษะ อ่อนแรง คลื่นไส้ เป็นต้น2.ดื่มน้ำเปล่าให้มากๆ หากร่างกายขาดน้ำจะทำให้รู้สึกหิวและเพิ่มความอยากของหวานมากขึ้น การดื่มน้ำเปล่าประมาณ 1 […]

3 กลุ่มยา อาจพาไตพัง

           3 กลุ่มยา อาจพาไตพัง สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ ขึ้นชื่อว่ายารักษาโรค ทุกท่านเมื่อทราบถึงสภาวะของตนเองก็จะต้องหายรักษา บางท่านอาจพบเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำ บางท่านอาจใช้ประสบการณ์ป่วยในการตัดสินใจซื้อยามารับประทานเอง แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าแม้ว่ายาบางชนิดจะไม่ได้มีอันตราย แต่หากกินติดต่อกันนานๆก็อาจนำพาไปสู่ ภาวะไตวายหรือไตเสื่อมได้ครับ วันนี้เรามาดูกันครับว่ามียากลุ่มใดบ้างที่หากทานมากๆเข้าอาจพาไตพัง ติดตามไปพร้อมกันครับ 3 กลุ่มยา อาจพาไตพัง ยาชนิดที่ 1 ยาแก้ปวดในกลุ่ม เอ็นเสด ( NSAIDs)         ยาแก้ปวดในกลุ่ม เอ็นเสด ไม่ว่าจะเป็น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน  ไดโคลฟีแนค ซึ่งยาเหล่านี้ เราสามารถหาซื้อได้ง่ายมากครับ แล้วก็เป็นที่นิยมใช้กัน เพราะว่าบางคนมีอาการปวดเรื้อรัง ไม่ว่าจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดข้อเท้า หรือว่าปวดกล้ามเนื้อ ก็จะใช้ยาเหล่านี้ ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็สามารถทำให้ไตวายไตเสื่อมได้เลยทีเดียวนะครับเพราะว่ายาในกลุ่มนี้ มันจะไปออกฤทธิ์ครับบริเวณเส้นเลือดที่ไต ทำให้เส้นเลือดที่ไตหดตัว […]

ออฟฟิศซินโดรม อาการเรื้อรังกวนใจชาวออฟฟิศ

ออฟฟิศซินโดรม อาการเรื้อรังกวนใจชาวออฟฟิศ ออฟฟิศซินโดรม คืออะไร ? ออฟฟิศซินโดรม  (Office Syndrome)  คือ ภาวะที่มักพบได้บ่อยในคนทำงานออฟฟิศ ซึ่งเป็นกลุ่มอาการปวดกล้ามเนื้อและเยื่อพังผืด (Myofascial Pain Syndrome) เนื่องมาจากรูปแบบการทำงานที่ใช้กล้ามเนื้อมัดเดิมซ้ำๆ เป็นระยะเวลานานต่อเนื่อง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการกล้ามเนื้ออักเสบและปวดเมื่อยตามอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะบริเวณ คอ หลัง ไหล่ บ่า แขน หรือข้อมือ ซึ่งอาการปวดดังกล่าวอาจลุกลามจนกลายเป็นอาการปวดเรื้อรังได้ สัญญาณเตือน ออฟฟิศซินโดรม 1.ปวดกล้ามเนื้อเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่ง มักมีอาการปวดแบบว้างๆ ๆไม่สามารถชี้จุดหรือระบุตำแหน่งที่ปวดได้อย่างชัดเจน เช่น คอ บ่า ไหล่ สะบัก 2.ปวดศีรษะเรื้อรัง หรือในบางครั้งมีอาการปวดหัวไมเกรนร่วมด้วย ซึ่งมีสาเหตุมาจากความเครียดหรือการที่ใช้สายตาเป็นระยะเวลานาน 3.ปวดหลังเรื้อรัง เป็นอาการที่พบบ่อยในผู้ป่วยโรคออฟฟิศซินโดรม เนื่องจากการนั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายชั่วโมง นั่งไม่ถูกท่า นั่งหลังค้อม อาจทำให้กล้ามเนื้อต้นคอ เมื่อย เกร็งอยู่ตลอด รวมถึงงานที่ต้องยืนนานๆ โดยเฉพาะคุณผู้หญิงที่ใส่ส้นสูง 4.ปวดตึงที่ขา หรือเหน็บชา อาการชาเกิดจากการนั่งนานๆ ทำให้เส้นเลือดดำถูกกดทับและส่งผลให้เลือดไหลเวียนผิดปกติ 5.ปวดตา ตาพร่า เนื่องจากต้องมีการมองหน้าจอคอมพิวเตอร์นานๆ หรือใช้สายตาอย่างหนักเป็นเวลานาน 6.มือชา นิ้วล็อค […]