WORLDMED CENTER Phi Phi

ล้างผักไม่สะอาด เสี่ยงพยาธิขึ้นสมอง

ล้างผักไม่สะอาด เสี่ยงพยาธิขึ้นสมอง สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ เมื่อไม่นานมานี้มีข่าวที่ระบุว่า มีเคสผู้ป่วยจากประเทศเพื่อนบ้านรายหนึ่ง มีอาการชักเกร็ง กระตุก แขนขาข้างขวา แล้วก็ลามมาทั้งตัว อุจจาระและปัสสาวะราด โดยแพทย์ได้ทำการซีทีสแกนสมอง ภาพเอกซเรย์พบว่าในสมองมีแคลเซียมเกาะอยู่กับไข่ของพยาธิ ลักษณะเป็นก้อนกลมๆ โดยพบว่ามีประวัติชอบรับประทานผักสดมาก แพทย์จึงสันนิษฐานว่าผักสดอาจปนเปื้อนปุ๋ยมูลสัตว์แล้วล้างไม่สะอาด ทำให้ผักมีไข่พยาธิแถมมาด้วย ไข่พยาธิจึงแทรกซึมในลำไส้ แล้วเดินทางไปอาศัยอยู่ในสมอง ซึ่งไข่พยาธิจะมีตัวอ่อนอยู่ข้างใน แล้วไปกระตุ้นสมองทำให้ชักนั่นเอง มีการสำรวจข้อมูลเกี่ยวกับผักปนเปื้อนพายาธิที่น่าสนใจดังนี้ จากการสำรวจของ Punsawad C และคณะ (2019) เก็บผักจากตลาดในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช จำนวน 265 ตัวอย่าง ประกอบไปด้วย ผักสะระแหน่ (a) สลัด (b) ผักชีไทย (c) หอม (d) ใบบัวบก (e) ขึ้นฉ่ายฝรั่ง (f) ผักกาดขาวจีน (g) ผักชีฝรั่ง (h) โหระพา (i) และผักบุ้งจีน (j) […]

ช็อคโกแลตบรรเทาอาการไอ ได้จริงหรือ

สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้มีข้อคำถามที่น่าสนใจมาฝากทุกท่านครับ ว่า “ช็อคโกแลตบรรเทาอาการไอได้จริงหรือ ?” วันนี้เราจะมาตอบคำถามนี้และไขความลับด้านสารอาหารของหนึ่งในอาหารที่ใครๆต่างก็บอกว่ากินแล้วอ้วนนี้กันครับ เรามาดูกันก่อนว่าเพราะเหตุใดกินช็อคโกแลตแล้วอ้วน จริงๆถ้าจะกล่าวให้ถูกคือช็อคโกแลตไม่ใช่สาเหตุหลักของความอ้วนโดยตรง แต่เป็นเพราะว่าช็อคโกแลตนั้นมีพลังงานสูง โดยเฉพาะในช็อคโกแลตที่มีความข้นและผสมกับนมและน้ำตาลเพิ่มเติม การบริโภคในปริมาณมากอาจทำให้ได้รับพลังงานเกินความจำเป็นต่อวันและส่งผลให้คุณมีเพิ่มน้ำหนักเพิ่มขึ้นได้นั่นเองครับ นั่นหมายความว่า “ถ้าเลือกทาน และทานอย่างเหมาะสม” ก็เกิดคุณประโยชน์ได้เช่นกันครับ มาดูคุณประโยชน์ของช็อคโกแลตกันครับ 1.มีสารต้านอนุมูลอิสระ คงความอ่อนเยาว์ : ในช็อคโกแลตนั้นอุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ (แอนตี้ออกซิเดนท์) ซึ่งช่วยให้ร่างกายต้านความเสื่อมที่มาจากมลภาวะภายนอกหรือความเครียด2.นอกจากข้อแรก สารต้านอนุมูลอิสระยังช่วยลดการอักเสบ ลดการเกิดโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจและหลอดเลือด  ซึ่งหลายการศึกษาพบว่าสารโพลีฟีนอลจะช่วยเสริมให้หลอดเลือดแข็งแรง มีส่วนช่วยเพิ่มไขมันคอเลสเตอรอลชนิด HDL ซึ่งช่วยลดการอักเสบและการก่อตัวของลิ่มเลือดได้ โดยการทาน “ดาร์กช็อคโกแลต” สัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง ช่วยลดความดันโลหิต ทำให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ป้องกันเส้นเลือดอุดตันและป้องกันภาวะหลอดเลือดแดงแข็งตัว3.ต้านอารมณ์เหวี่ยงวีน ในวันแดงเดือด สำหรับคุณผู้หญิง ในวันที่มีประจำเดือนหรือก่อนมีประจำเดือน ช็อคโกแล็ตที่มีส่วนผสมของโกโก้ 60 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป จะช่วยควบคุมความอยากอาหาร และแม็กนีเซียมที่มีอยู่ในช็อคโกแล็ตจะเข้าไปช่วยเพิ่มระดับฮอร์โมนเซโรโทนิน ซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความสงบ ช่วยให้ลดพฤติกรรมเหวี่ยงวีนได้4.ลดความเสี่ยงหลอดเลือดสมองแตกมีผลงานวิจัยจากมหาวิทยาลัย อาเบอร์ดีน (สกอตแลนด์) พบว่าการทานช็อคโกแล็ต 100 กรัมต่อวัน […]

การปฐมพยาบาล และเรื่องที่อาจเข้าใจผิด

การปฐมพยาบาล และเรื่องที่อาจเข้าใจผิด สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ วันนี้สาระเกี่ยวกับการปฐมพยาบาลเบื้องต้นครับ เพื่อให้ท่านรับมือและดำเนินการตามขั้นตอนที่ถูกต้องและให้การช่วยเหลือผู้ป่วยได้อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังลดการเกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับหลักการปฐมพยาบาลที่อาจเคยเข้าใจกันต่อมาแบบคลาดเคลื่อนครับ จะมีวิธีใดบ้างนั้น ติดตามไปพร้อมกันวันนี้ครับ วิธีการปฐมพยาบาลกับความเข้าใจผิด ใช้สายรัดห้ามเลือดแน่นๆ คือความเข้าใจผิด                        บางท่านอาจเข้าใจหรือเคยพบเห็นการห้ามเลือดด้วยสายรัดเพื่อไม่ให้เสียเลือดจนเกิดอันตราย เพียงแต่หากเผลอรัดแน่นหรือไม่สามารถทำได้อย่างถูกวิธี จะทำให้อวัยวะปลายทางขาดเลือดซึ่งอันตรายถึงขั้นสูญเสียอวัยวะนั้นได้เลย การมีเลือดออกเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้ง่าย ในกรณีที่มีเลือดออกมากจนเป็นหยดคล้ายกับน้ำพุ่ง ในกรณีนี้คุณต้องกดหลอดเลือดแดงใต้ขาหนีบหรือรักแร้และวางแขนชิดลำตัว ถ้าหากจำเป็นต้องรัดให้รัดทับเสื้อผ้าดีกว่า จากนั้นจึงให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินการรักษาแผลเพื่อป้องกันการติดเชื้อต่อไปครับ เวลามีคนเป็นลมชักให้รีบหาอะไรมาใส่ปากทันที คือความเข้าใจผิด การหาอะไรมาใส่ปากคนที่เป็นลมชักนั้นอาจจะไม่ใช่เรื่องที่ดี เพราะหากหากเลือกไม่ดีอาจจะทำให้ฟันของผู้ชักเสียหายได้ แล้วฟันที่หักมีโอกาสสูงที่จะลงไปอุดหลอดลม วิธีที่ดีของการปฐมพยาบาลคนเป็นลมชักนั้น ทำได้โดยการหาอะไรมาหนุนที่ศีรษะผู้ป่วย เช่นเสื้อผ้า หรือหมอน และเรียกรถพยาบาล ถ้าโดนน้ำแข็งกัดอย่าขัดผิวหรือแช่น้ำร้อนๆ เคสนี้ใช้เพียงน้ำอุ่นๆก็เพียงพอ เมื่อคุณโดนน้ำแข็งกัดอย่าเอามือไปแช่ในน้ำร้อน เพราะเส้นเลือดฝอยของคุณจะถูกทำลายหากใช้น้ำที่มีอุณหภูมิสูงจนเกินไป การลดผลกระทบอย่างช้าๆ เป็นวิธีที่ดีที่สุด เพียงแค่คุณวางมือของคุณในน้ำเย็น และค่อยๆ เพิ่มอุณหภูมิอย่างช้าๆ ใช้ยาสีฟัน หรือน้ำมันทาแผลไฟลวก […]

เตือน 3 กลุ่มนี้ ห้ามรับประทานโพรไบโอติก

เตือน 3 กลุ่มนี้ ห้ามรับประทานโพรไบโอติก สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ เชื่อว่าผู้รักสุขภาพหลายท่านต้องรู้จักโพรไบโอติกกันอยู่แล้ว โดย เจ้าจุลินทรีย์ขนาดเล็กที่อยู่ใน นมเปรี้ยว โยเกิร์ต กิมจิ มิโสะ เป็นต้น เมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะทำให้สุขภาพดี มีคุณสมบัติที่ทนต่อกรดและด่าง สามารถจับที่บริเวณผิวของเยื่อบุลำไส้ และยังสามารถผลิตสารต่อต้านหรือกำจัดเชื้อจุลินทรีย์ไม่ดีชนิดอื่นๆ ในทางการแพทย์นั้น ก็ใช้เพื่อการรักษาและป้องกันภาวะลำไส้อักเสบ ไม่ว่าจะเป็นอาการท้องเสีย ภาวะลำไส้อักเสบจากการที่ได้รับยาปฏิชีวนะ เรียกได้ว่าประโยชน์ล้นเหลือและเข้าถึงง่ายครับ แต่ท่านทราบหรือไม่ว่า ก็มีกลุ่มอาการเฉพาะบางท่านที่ไม่สามารถรับประทานโพรไบโอติกได้เป็นปกติ และเหตุผลที่ห้ามรับประทานคืออะไร ติดตามพร้อมกันคับ สำหรับท่านที่ควรงดรับประทานโพรไบโอติก ได้แก่ กลุ่มที่ 1 คนที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง สำหรับท่านใดที่เป็นโรคภูมิคุ้มกันบกพร่องหรือว่ากำลังรับประทานยากดภูมิอยู่ ไม่ว่าจะเป็นโรค SLE( ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายที่ก่อให้เกิดการอักเสบและทำลายอวัยวะต่างๆ ) รูมาตอยด์ โรคผิวหนังแข็ง หรือว่าเปลี่ยนถ่ายอวัยวะแล้วก็รับประทานยากดภูมิอยู่แนะนำว่าให้หลีกเลี่ยงการรับประทานโพรไบโอติกครับ ในที่นี้โพรไบโอติกในอาหารสามารถรับประทานได้ไม่มีปัญหาอะไรครับ ไม่ว่าจะเป็นนมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรือว่าอาหารหมักดองสามารถรับประทานได้ แต่พวกผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่เป็นโพรไบโอติก อันนี้ไม่แนะนำให้รับประทานครับเพราะว่าสำหรับคนที่ภูมิคุ้มกันบกพร่อง เมื่อรับประทานโพรไบโอติกเข้าไปแล้วจะเกิดผลเสียต่อร่างกายได้เนื่องจากเป็นจุลินทรีย์ที่มีชีวิตและเสมือนเป็นเชื้อโรคตัวหนึ่งด้วยครับ ถ้าในเคสปกติก็จะไม่ก่อโรค แต่ถ้าในรายของเคสภูมิคุ้มกันบกพร่อง อาจจะทำให้เกิดผลเสียในร่างกายของเราได้ ดังนั้นกลุ่มอาการนี้ให้หลีกเลี่ยงการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหารพวกโพรไบโอติกไปก่อนครับ กลุ่มที่ 2 […]

3กลุ่มยา อาจพาไตพัง

3กลุ่มยา อาจพาไตพัง สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ ขึ้นชื่อว่ายารักษาโรค ทุกท่านเมื่อทราบถึงสภาวะของตนเองก็จะต้องหายรักษา บางท่านอาจพบเภสัชกรเพื่อรับคำแนะนำ บางท่านอาจใช้ประสบการณ์ป่วยในการตัดสินใจซื้อยามารับประทานเอง แต่ท่านทราบหรือไม่ว่าแม้ว่ายาบางชนิดจะไม่ได้มีอันตราย แต่หากกินติดต่อกันนานๆก็อาจนำพาไปสู่ ภาวะไตวายหรือไตเสื่อมได้ครับ วันนี้เรามาดูกันครับว่ามียากลุ่มใดบ้างที่หากทานมากๆเข้าอาจพาไตพัง ติดตามไปพร้อมกันครับ ยาประเภทไหนบ้างที่ควรระวังและส่งผลอันตรายต่อไต ยาชนิดที่ 1 ยาแก้ปวดในกลุ่ม เอ็นเสด ( NSAIDs)💊🤦 ยาแก้ปวดในกลุ่ม เอ็นเสด ไม่ว่าจะเป็น ไอบูโพรเฟน นาพรอกเซน ไดโคลฟีแนค ซึ่งยาเหล่านี้ เราสามารถหาซื้อได้ง่ายมากครับ แล้วก็เป็นที่นิยมใช้กัน เพราะว่าบางคนมีอาการปวดเรื้อรัง ไม่ว่าจะมีอาการปวดศีรษะ ปวดข้อ ปวดเข่า ปวดข้อเท้า หรือว่าปวดกล้ามเนื้อ ก็จะใช้ยาเหล่านี้ ซึ่งการใช้ยาเหล่านี้ติดต่อกันเป็นเวลานานๆ ก็สามารถทำให้ไตวายไตเสื่อมได้เลยทีเดียวนะครับเพราะว่ายาในกลุ่มนี้ มันจะไปออกฤทธิ์ครับบริเวณเส้นเลือดที่ไต ทำให้เส้นเลือดที่ไตหดตัว ขณะเดียวกันนั้นเลือดก็จะไปเลี้ยงไตได้น้อยลง มีโอกาสทำให้ไตวายไตเสื่อมได้นั่นเองครับ หากเรามีอาการปวดเรื้อรังครับแนะนำว่าให้ปรึกษาแพทย์ก่อนดีกว่าครับ อย่าเพิ่งไปซื้อยามารับประทานเองติดต่อกันเป็นเวลานานๆ เพราะว่าจะทำให้ไตวายไตเสื่อมแล้วก็อาจจะต้องฟอกไตในอนาคตได้เลยครับ ยาชนิดที่ 2 ยาขับปัสสาวะ💊🚽 ยาขับปัสสาวะส่วนใหญ่จะให้กับคนที่เป็นโรคหัวใจครับหรือว่าคนที่เป็นโรคไตเสื่อมเนื่องจากร่างกายขับน้ำออกจากร่างกายได้น้อย จึงจำเป็นที่จะต้องรับประทานยา จำพวกยาขับปัสสาวะเพราะมิเช่นนั้น น้ำอาจจะท่วมปอดหรือว่าทำให้ขาบวมได้ […]

กินยาพาราอย่างปลอดภัย

สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed กันอีกเช่นเคยครับ พูดถึงยาสารพัดแก้ปวดชื่อแรกหลายท่านต้องนึกถึง พาราเซตามอล ใช่หรือไม่ครับ และเมื่อมีอาการปวดศีรษะ เป็นไข้ ปวดตรงไหน เรามักจะใช้ยาพาราเซตามอลบรรเทาอาการ ทั้งในเรื่องของปริมาณ จำนวนเม็ด เวลาที่กิน วันนี้เรามาขยายความเข้าใจเกี่ยวกับพาราเซตามอลให้มากขึ้น ในหัวข้อ กินยาพาราอย่างปลอดภัย ข้อเท็จจริิงเกี่ยวกับการ กินยาพาราอย่างปลอดภัย หลายท่านสงสัยพาราแก้ปวดได้อย่างไร ยาพาราเซตามอลออกฤทธิ์โดยการยับยั้งสารเคมีบางชนิดในสมองของมนุษย์ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวข้องกับอาการปวด เช่น สารโพรสตาแกลนดิน (Prostaglandin) และจะชักนำให้เกิดกลไกการลดอุณหภูมิหรือลดไข้ของร่างกายลงมา พาราเซตามอลกินอย่างไรยาพาราเซตามอลที่หาได้โดยทั่วไปจะมีขนาด 500 มิลลิกรัม และ 325 มิลลิกรัมซึ่งประมาณการได้จากน้ำหนักตัวของผู้ที่กินยา ยาพาราเซตามอล ขนาด 500 มิลลิกรัมน้ำหนักตัว 33-50 กิโลกรัม กิน 1 เม็ดน้ำหนักตัว 51-67 กิโลกรัม กิน 1+1/2 เม็ดน้ำหนักตัว 51-67 67+ กิโลกรัม กิน 2 เม็ดยาพาราเซตามอล ขนาด 325 […]

Hyaluronic Acid คืออะไร ? มาไขความลับผิวอ่อนวัยไปพร้อมกัน

           สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆกับ Admin Worldmed เช่นเคยครับ วันนี้ว่าด้วยเรื่องของความงามกันบ้างครับ  หลายท่านอาจเคยได้ยินชื่อไฮยา ที่เค้าเรียกว่าไฮยาๆ หรือกรดไฮยา หรือชื่อของเค้าก็คือ กรดไฮยารูรอน หรือ HA  เป็นสารธรรมชาติที่ร่างกายสามารถสร้างขึ้นเองได้ แม้ในปริมาณน้อย สามารถพบเจ้า HA ที่มีปริมาณเข้มข้นได้บริเวณ ระหว่างใยกล้ามเนื้อ บริเวณข้อต่อ ข้อเข่าและรอบดวงตา คุณสมบัติเด่นคือมีความต้านทานต่อการเสียดสี ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่น รักษาความชุ่มชื้น ป้องกันริ้วรอยบนผิวหนังโดยเฉพาะบนใบหน้านั่นเอง Hyaluronic Acid คืออะไร ? มาไขความลับผิวอ่อนวัยไปพร้อมกัน Hyaluronic Acid มีคุณสมบัติอย่างไร 1.มีคุณสมบัติอุ้มน้ำได้ดีมาก แนะนำให้ใส่ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิว ที่ความเข้มข้น 0.25% ถึง 2.00% ทั้งในครีมบำรุง และเครื่องสำอางหลากหลายรูปแบบ 2.ช่วยกรองรังสี UV ที่เป็นต้นเหตุทำให้ผิวหนังคล้ำเสีย และเป็นริ้วรอยก่อนวัย 3.ช่วยลดการสร้างอนุมูลอิสระ 4.ช่วยตรึงคอลลาเจนและอีลาสตินในชั้นผิวหนังแท้ 5.มีโมโลกุลใหญ่ที่สามารถใช้เติมเต็มชั้นผิวได้ รูปแบบต่างๆของ Hyaluronic […]

กาแฟลดความอ้วนได้จริงหรือ ?

กาแฟลดความอ้วน ได้จริงหรือ ? สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ หลายท่านอาจเคยได้ยินถึงคุณประโยชน์ของกาแฟในเรื่องของการลดความอ้วน ซึ่งต้องขยายความก็คือช่วย หลายท่านอาจเคยได้ยินถึงคุณประโยชน์ของกาแฟในเรื่องของการลดความอ้วน ซึ่งต้องขยายความก็คือช่วยให้คุณมีสุขภาพกายที่ดีขึ้นจากการดืมกาแฟ และช่วยให้กระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไขมันได้ดีขึ้นกว่าเดิม คำถามคือต้องดื่มแบบไหน ดื่มอย่างไร จึงได้คุณค่าและคุณประโยชน์สูงสุด มีงานศึกษาจาก University of Nottingham พบว่า กาแฟอาจช่วยกระตุ้นเนื้อเยื่อ “ไขมันสีน้ำตาล” ให้ทำงานเผาผลาญพลังงานในร่างกายได้ดีขึ้น คำอธิบายคือ ไขมันสีน้ำตาลทำงานต่างจากไขมันอื่นในร่างกาย โดยทำงานสร้างความร้อนด้วยการเผาผลาญน้ำตาลและไขมันเมื่อร่างกายอยู่ในภาวะอากาศหนาวเย็น ทำให้ร่างกายเพิ่มการควบคุมระดับน้ำตาลและไขมันในเลือด และสุดท้ายการเผาผลาญแคลอรี่พิเศษนี้จะช่วยลดน้ำหนักได้ในที่สุด ในทางอ้อม คาเฟอีน สารอาหารสำคัญในกาแฟ ยังมีบทบาทช่วยยับยั้งการทำงานของสารสื่อประสาทที่เรียกว่า “Adenosine” พอไม่มีสาร Adenosine ร่างกายเราก็จะหลั่งโดพามีน และนอร์อะดรีนาลีน ออกมากมาขึ้นแทน ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่ช่วยให้เรารู้สึกสดชื่น และมีแรงมากขึ้น ซึ่งด้วยเหตุผลนี้เองจะช่วยเพิ่มสมรรถนะในการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้นได้ถึง 12%  เลยทีเดียว กลไกเผาผลาญไขมันของกาแฟ คาเฟอีนจะกระตุ้นการหลั่งฮอร์โมนที่เรียกว่า Noradrenaline  ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นสมองให้ส่งสัญญาณไปบอกเซลล์ไขมัน ให้หลั่ง Free Fatty Acids ออกมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น มีงานวิจัยหลายชิ้นระบุถึงคุณสมบัติของ คาเฟอีนไว้ว่ามีส่วนช่วยเพิ่มค่า RMR (ค่าตัวเลขการเผาผลาญระหว่างที่เราพัก หรือระหว่างที่เราไม่ได้มีกิจกรรม)ได้มากถึงประมาณ 3-11% […]

ยาแก้แพ้กินอย่างไร ? ให้ตรงกับอาการ

สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระสุขภาพดีๆ กับ Admin Worldmed เช่นเคยครับ วันนี้เรามาพูดถึงการใช้ยาแก้แพ้กันครับ ยาแก้แพ้กินอย่างไร ? ให้ตรงกับอาการ เมื่อร่างกายได้รับสิ่งแปลกปลอม จากมลภาวะ อาการแพ้ก็จะปรากฏขึ้น โดยสารก่อภูมิแพ้จะกระตุ้นให้เซลล์หลั่งสารฮีสตามีน (histamines) ออกมา  เมื่อฮีสตามีนถูกหลั่งออกมาจะทําให้เกิดอาการคัน ผื่น แดงที่ผิวหนัง อาจมีหลอดลมตีบ หายใจลําบาก ที่ทางเดินหายใจ และถ้าไปออกฤทธิ์ที่ทางเดินอาหารจะมีอาการปวดท้อง คลื่นไส้ อาเจียนได้ การเลือกใช้ยาแก้แพ้ ยาแก้แพ้มี 3 รูปแบบหลักๆ ดังนี้ 1) ยาแก้แพ้ชนิดเม็ด จะมีทั้งตัวยาที่ทำให้ง่วงซึมและไม่ง่วงซึมหรือง่วงซึมน้อย จำแนกตัวยาได้แก่ สีเหลือง Chlorpheniramine ช่วยบรรเทาอาการแพ้และช่วยลดน้ำมูก สีฟ้า Diphenhydramine มีฤทธิ์ช่วยเรื่องอาการคลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ  ตัวนี้ทำให้ง่วง เพราะสามารถผ่านเข้าสู่สมองและไปกดประสาทได้  ขนาดรับประทาน : ครั้งละ 50 มิลลิกรัม โดยให้รับประทานก่อนขึ้นรถ หรือขึ้นเรือ อย่างน้อย ครึ่งชั่วโมง ครั้งละ 1 […]

ลดน้ำตาล 1 อาทิตย์ จะเป็นอย่างไร ?

สวัสดีท่านผู้รักสุขภาพทุกท่านครับ พบกับสาระดีๆกับ Admin Worldmed เช่นเคย วันนี้เราลองมาคิดเล่นๆกันครับว่าหากเราปรับการบริโภคโดยการ ลดน้ำตาล 1 อาทิตย์ จะเป็นอย่างไร ? ซึ่งมีข้อมูลที่น่าสนใจครับ มีสถิติจากการสำรวจของกรมอนามัยและสำนักงานกองทุนสนับสนุนการส่งเสริมสุขภาพ (ส.ส.ส.) พบว่าคนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 20 ช้อนชา หรือเกินกว่าปริมาณแนะนำถึงกว่าสามเท่า โดยส่วนใหญ่เป็นการกินน้ำตาลที่เติมเข้ามาในอาหารและเครื่องดื่ม ไม่ใช่น้ำตาลจากธรรมชาติ (เช่นน้ำตาลจากผลไม้ เป็นต้น) นิสัยชอบกินหวานของคนไทย ทำให้สถิติของผู้ป่วยโรคเบาหวานและโรคอ้วนพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย ไขข้อสงสัย งดน้ำตาล 1 อาทิตย์ จะส่งผลอย่างไรต่อร่างกาย ? แน่นอนว่า การงดการบริโภคน้ำตาลทันทีอาจทำให้รู้สึกเครียด และอาจทำให้เกิดภาวะหน้ามืด เพราะน้ำตาลในเลือดต่ำฉับพลัน และจะเกิดอาการโหยหาน้ำตาลมากขึ้น เพราะด้วยความเคยชินของร่างกาย หรืออาจเป็นเพราะร่างกายกำลังปรับตัวกับปริมาณของน้ำตาลที่ลดลง หลายคนเกิดความสงสัยว่า หากร่างกายไม่ได้รับน้ำตาลมาระยะหนึ่งแล้ว จะส่งผลอย่างไรบ้าง ? 1.หัวใจแข็งแรงขึ้น มีงานวิจัยจากสถาบันสุขภาพในสหรัฐอเมริกาพบว่า เมื่อลดน้ำตาลในช่วงระยะเวลาหนึ่งแล้ว ความเสี่ยงของการเสียชีวิตจากโรคหัวใจก็จะลดลงได้ถึงสามเท่าเมื่อเทียบกับการบริโภคน้ำตาลแบบเดิม และหลังจากงดการบริโภคน้ำตาลตั้งแต่สัปดาห์ที่สองต่อไปอีกเพียงไม่กี่สัปดาห์ ระดับคอเลสเตอรอลและไขมันแอลดีแอล จะลดลงได้ถึง 10% ยิ่งไปกว่านั้น ไตรกลีเซอไรด์อาจลงได้ถึง 20-30% รวมถึงความดันโลหิตก็อาจลดลงด้วย(คำเตือน : หากลดแบบหักดิบในช่วงสัปดาห์แรกอาจจะทำให้หน้ามืดในบางรายได้ […]